วันที่ 1 มิถุนายน 2565 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย โดย นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายอุ่นเฮือน ไซยะจัก อธิบดีกรมสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าด้วยโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย – ลาว ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล
![](http://news.dnp.go.th/wp-content/uploads/2022/06/285404116_384904393672298_1887515908161890281_n.jpg)
![](http://news.dnp.go.th/wp-content/uploads/2022/06/284382653_324334189875138_5177817042331060023_n.jpg)
โครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย – ลาว เป็นโครงการสำคัญตามกรอบการดำเนินงานความร่วมมือไทย – ลาว พ.ศ. 2561 – 2564 (Framework for Thai – Lao Cooperation 2018 – 2021) ที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เห็นชอบร่วมกัน เมื่อปี 2560 และคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 เห็นชอบบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อดำเนินการจัดทำโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย – ลาว ใน สปป.ลาว ในเขตโรงเรียนมัธยมสมบูนนาซอน บ้านนาซอน เมืองปากงึม นครหลวงเวียงจันทน์ และได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 แต่บันทึกความเข้าใจฉบับเดิมได้สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังมีความประสงค์จะดำเนินโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย – ลาว ต่อไป
![](http://news.dnp.go.th/wp-content/uploads/2022/06/285671289_324334349875122_2014494095051241224_n.jpg)
![](http://news.dnp.go.th/wp-content/uploads/2022/06/284430755_324334323208458_5625495410958104723_n.jpg)
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) จึงได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับใหม่ในครั้งนี้ โดยมีเนื้อหาเหมือนฉบับเดิม แต่ได้ปรับขยายระยะเวลาดำเนินโครงการออกไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 เพื่อแสดงถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน ให้เป็นแหล่งรวบรวมและอนุรักษ์พันธุกรรมพืชที่มีค่าหายากและใกล้สูญพันธุ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติแบบยั่งยืนของลาว ตลอดจนสร้างความร่วมมือของนักพฤกษศาสตร์ในการศึกษาด้านพันธุ์ไม้ของสองประเทศ รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนทั้งสองประเทศมีจิตสำนึก รักและหวงแหนป่าไม้
![](http://news.dnp.go.th/wp-content/uploads/2022/06/285765486_324334259875131_5445222336807417709_n.jpg)
![](http://news.dnp.go.th/wp-content/uploads/2022/06/285637347_324334133208477_3222767392415905949_n.jpg)
การดำเนินโครงการ ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่ การจัดตั้งสวนรุกขชาติไทย-ลาว ใน สปป.ลาว (พ.ศ. 2564 – 2566) การจัดพิธีเปิดสวนรุกขชาติไทย – ลาว ใน สปป.ลาว (พ.ศ. 2566 – 2567) การบริหารจัดการสวนรุกขชาติไทย – ลาว ใน สปป.ลาว (พ.ศ. 2566 – 2567) และการสำรวจ การเก็บพรรณไม้ และจัดทำหนังสือพรรณไม้ไทย – ลาว (พ.ศ. 2566 – 2568) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติและเห็นชอบการดำเนินโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา สำหรับในส่วนของการจัดสร้างสวนรุกขชาติในฝั่งไทยได้ดำเนินการแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2557 โดยใช้ชื่อว่า “สวนรุกขชาติ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ลาว” ตั้งอยู่ที่บ้านหนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 60 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหนองน้ำธรรมชาติ ประมาณ 40 ไร่ มีการปลูกพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น สะเดา คูณ ประดู่ ยางนา โสกเขา กันเกรา แคนา บุนนาค จำปี ตีนเป็ดทะเล ปีบ กระพี้จั่น ลั่นทม เป็นต้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทั่วไป