อธิบดีกรมอุทยานฯ ซักซ้อมการบริหารจัดการอุทยานฯ ทางทะเลทั่วประเทศ สอดรับนโยบายท่องเที่ยวยั่งยืน เข้มการจัดเก็บใช้จ่ายเงินอุทยานฯโปร่งใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม คุมเข้มกฎการท่องเที่ยวไม่ทำลายทะเล ปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล เน้นความปลอดภัย ดูแล จนท.ผู้ปฎิบัติงาน
วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและซักซ้อมแนวทางการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเลทั่วประเทศ โดยมีผู้บริหารระดับสูงและหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทางทะเล 26 แห่งเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ควบคู่การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างเข้มข้น ตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยมีนายอริยะ เชื้อชม ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่เกี่ยวข้อง และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทางทะเลทั้ง 26 แห่ง เข้าร่วมประชุม
ในโอกาสนี้ นายอรรถพลได้น้อมนำแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา องค์ประธานมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ มาแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบและยึดถือเป็นแนวทางหลักในการปฏิบัติงาน เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน
และได้เน้นย้ำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ที่ให้ความสำคัญกับการเข้มงวดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ และการพัฒนาการบริหารจัดการอุทยานฯ เริ่มตั้งแต่การบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการจัดการขยะในพื้นที่อุทยานฯ ให้มีการคัดแยกและนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์สูงสุด ลดปริมาณขยะตกค้างในแหล่งท่องเที่ยว พร้อมยกระดับมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมให้ทัดเทียมสากล
ด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กำหนดให้ทุกอุทยานฯ ควบคุมกิจกรรมทางทะเลอย่างเคร่งครัดตามหลักวิชาการ โดยเฉพาะกิจกรรมดำน้ำ ต้องมีมาตรการกำกับดูแลที่ชัดเจนเพื่อป้องกันผลกระทบต่อปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล รวมถึงการรณรงค์และควบคุมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เช่น ครีมกันแดดที่มีสารเคมีอันตรายต่อปะการัง พร้อมทั้งเน้นย้ำ ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เป็นสำคัญ
อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ในส่วนของการบริหารจัดการภายใน ได้เน้นย้ำเรื่อง ความโปร่งใสในการจัดเก็บและใช้จ่ายเงินรายได้อุทยานฯ ให้สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน มีการรายงานผลการดำเนินงานอย่างครบถ้วน และสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องรวดเร็วเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่สาธารณชน
นอกจากนี้ อธิบดีฯ ยังได้กำชับให้ ดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในพื้นที่อุทยานฯ ทางทะเลทุกแห่ง รวมถึงส่งเสริม การมีส่วนร่วมของชุมชน ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล โดยเน้นการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และผลักดันความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น ภายใต้กรอบการดำเนินงานของมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยฯ และประสานความร่วมมือกับกองทัพเรือ รวมถึงกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อบูรณาการแผนงานอย่างเป็นระบบ
ที่ประชุมยังได้มีการนำเสนอและแลกเปลี่ยนแนวทางการจัดเก็บเงินรายได้ที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส รวมถึงการนำรายได้มาใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรในพื้นที่ ซึ่งอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เห็นชอบให้พัฒนาระบบการจองและชำระค่าบริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) ให้ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติทางทะเลทุกแห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ การประชุมครั้งนี้ถือเป็นมอบนโยบายที่สำคัญเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเลของไทยให้ได้มาตรฐานและก้าวไปสู่ความยั่งยืนต่อไป.
