• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

จนท.สบอ.9 (อุบลฯ) เร่งขับเคลื่อนแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง รับมือเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2568 นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) รายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่กำชับให้เร่งดำเนินการตาม “แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง (หมู่บ้าน)” เพื่อรองรับและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

จากการติดตามสถานการณ์พบว่า มีการปะทะเป็นระยะตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งสถานการณ์มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น มีการใช้อาวุธหนัก อาทิ ปืนใหญ่ ปืนยิงลูกระเบิด โดรนพลีชีพ โดรนทิ้งระเบิด จรวดหลายลำกล้อง (BM-21) และรถถัง ในการโจมตีแนววางกำลัง หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ตอบโต้ด้วยอาวุธยิงระยะไกล เพื่อสกัดการคุกคาม พร้อมสถาปนาความมั่นคงและวางกำลังตรึงพื้นที่อย่างเข้มงวด

ด้านการเยียวยาประชาชน ศูนย์เฉพาะกิจประสานงานด้านความมั่นคงพื้นที่ป่าอนุรักษ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ 6 แห่ง และหน่วยงานภาคีเครือข่ายอีก 20 หน่วยงาน ได้ดำเนินภารกิจสนับสนุนพื้นที่ส่วนหลัง ดังนี้

  • เข้าตรวจเยี่ยมและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคจำเป็นในศูนย์พักพิง 8 แห่ง
  • จัดชุดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนชุมชน ร่วมกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ดูแลความสงบเรียบร้อยใน 24 หมู่บ้าน พร้อมสำรวจความเสียหายของบ้านเรือน
  • จัดเวรยามรักษาความปลอดภัยเข้มข้นในหน่วยงานระดับพื้นที่ 26 แห่ง
  • จัดชุดเฝ้าระวังสอดส่องบุคคลต้องสงสัย เพื่อป้องกันการหาข่าวจากฝ่ายตรงข้าม
  • จัดเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือให้อาหารสัตว์เลี้ยง (วัว, ควาย, สุนัข, แมว) ที่ถูกทิ้งไว้ในหมู่บ้านขณะอพยพ ปรับปรุงและเสริมความแข็งแรงของหลุมหลบภัยประจำหมู่บ้าน และเป็นตัวกลางรับและแจกจ่ายสิ่งของบริจาคให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง

ทั้งนี้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชน พร้อมสนับสนุนภารกิจของกองกำลังป้องกันชายแดนอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้พื้นที่ส่วนหลังมีความปลอดภัยสูงสุด และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด