• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

สบอ.1 (ปราจีนบุรี) ขานรับนโยบาย​​ รมว.ทส. เร่งแก้ปัญหาช้างป่า “ทับลาน” บูรณาการทุกฝ่ายปกป้องชุมชน

(11 พฤศจิกายน 2568) นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เปิดเผยถึงสถานการณ์ช้างป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา อาทิ อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอครบุรี และอำเภอเสิงสาง ว่าขณะนี้เกิดสถานการณ์ช้างป่าหลายตัวออกหากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านอย่างต่อเนื่องและบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและทรัพย์สินของชุมชน

นายยศวัฒน์ฯ กล่าวว่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ได้ให้ความสำคัญสูงสุดในการบริหารจัดการปัญหานี้ โดยเป็นไปตามข้อสั่งการและแนวนโยบายของ นายสุชาติ ชมกลิ่น ​รองนายกรัฐมนตรีและ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส) และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปก.ทส) ซึ่งนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที

เมื่อวันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2568 นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน พร้อมด้วยนางสาวชิดชนก ปราบทุกข์ หัวหน้าเขตจัดการฯ ที่ 2 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพิ่มเติมจากจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับนายสมเกียรติ พวงเกาะ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าทับลาน และชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังช้างป่า เข้าประจำจุดปฏิบัติงานสำคัญบริเวณป่าซับม่วง และป่า 1,000 ไร่ ตำบลจระเข้หิน และตำบลอุดมทรัพย์

จากการปฏิบัติการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าร่วมกับเครือข่ายชุมชนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตลอดระยะเวลาต่อเนื่องกว่า 2 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่สามารถสกัดกั้นโขลงช้างป่าได้สำเร็จ โดยพบโขลงช้างจำนวนกว่า 30 ตัว ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวมายังพื้นที่เกษตรกรรม คณะเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังเข้าสกัดกั้นและผลักดันให้ช้างเคลื่อนตัวกลับเข้าป่าไปรวมกับโขลงใหญ่กว่า 70 ตัว ที่รออยู่บริเวณขอบอ่างได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ยังสามารถผลักดันช้างป่า 1 ตัวที่แยกโขลงออกมากินข้าวโพดของชาวบ้านบริเวณขอบป่าซับม่วงกลับเข้าป่าได้สำเร็จ แม้ว่าการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องเกือบ 24 ชั่วโมงต่อวัน ได้ส่งผลให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเริ่มเกิดความอ่อนล้า

นายยศวัฒน์ฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ช้างป่าออกหากินในช่วงนี้คือ ฤดูกาลเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าวโพด มันสำปะหลัง และกำลังจะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวอ้อย ทำให้กลิ่นผลผลิตทางการเกษตรเป็นสิ่งดึงดูดสำคัญที่ทำให้ช้างป่ารวมตัวเป็นโขลงใหญ่และพยายามออกหากิน

เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ได้เสนอแนวทางปฏิบัติการและขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีข้อเสนอหลักคือ การเพิ่มงบประมาณจัดจ้างเจ้าหน้าที่เฉพาะทาง การจัดหางบประมาณสนับสนุนเครือข่ายชาวบ้านในด้านอุปกรณ์ผลักดันช้างป่า ยานพาหนะ และเสบียงอาหาร และที่สำคัญที่สุดคือ การเร่งจัดหางบประมาณเพื่อดำเนินการจัดทำโป่งเทียมและแหล่งอาหารธรรมชาติในใจกลางป่าโดยเร็วที่สุด เพื่อดึงดูดช้างให้อยู่ในพื้นที่คุ้มครองอย่างถาวร

ทั้งนี้​ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ขอยืนยันว่า จะยังคงดำเนินการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่าอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฯ และปลัดกระทรวงฯ และข้อสั่งการของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยคำนึงถึงสมดุลของการอนุรักษ์สัตว์ป่า ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือและการสนับสนุนงบประมาณที่เพียงพอจากทุกภาคส่วน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด