• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

กรมอุทยานฯ จับมือ KPI ให้บริการประกันอุบัติเหตุกลุ่ม ‘ท่องเที่ยวทั่วไทย อุ่นใจเมื่อไปอุทยาน’

วันที่ 20 ธันวาคม 2565 นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการให้บริการประกันอุบัติเหตุกลุ่ม ภายใต้ “โครงการท่องเที่ยวทั่วไทย อุ่นใจเมื่อไปอุทยาน” ระหว่าง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ KPI โดยมี นางสาวสุชาวดี แสงอนงค์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัยฯ ร่วมลงนาม พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ และคณะผู้บริหารในสังกัด เข้าร่วมในพิธี ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม 2 ชั้น 1 โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เป็นการร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ และลดความเสี่ยงในการรับภาระชดเชยค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุในอุทยานแห่งชาติ โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สนับสนุนการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการในอุทยานแห่งชาติ สนับสนุนพื้นที่และช่องทางในการวางสื่อประชาสัมพันธ์ ระบบการทำงาน และการจัดการในการให้บริการประกันอุบัติเหตุกลุ่มในเขตอุทยานแห่งชาติ ทั้งนี้ สำนักอุทยานแห่งชาติได้ดำเนินงานตามนโยบายของภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยว เชิงคุณภาพของประเทศ โดยโครงการท่องเที่ยวทั่วไทย อุ่นใจเมื่อไปอุทยาน ถือเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและมีความอุ่นใจ เมื่อได้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำหรับแผนประกันอุบัติเหตุที่จัดทำขึ้นจะให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ให้ความคุ้มครองนานถึง 7 วัน นับจากวันแรกที่ได้รับการประทับตรา เมื่อเข้าเขตอุทยานแห่งชาติ ความคุ้มครองนั้นจะครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาลกรณีได้รับอุบัติเหตุ หรือกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อประกันอุบัติเหตุได้ที่จุดจำหน่ายตั๋วของกรมอุทยานแห่งชาติฯ นั้น ๆ ด้วยความสมัครใจแบบไม่บังคับ

นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนิน “โครงการท่องเที่ยวทั่วไทย อุ่นใจเมื่อไปอุทยาน” เป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐในการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งในแต่ละสถานที่ท่องเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งความสวยงามตามธรรมชาติ ประกอบกับแนวโน้มของการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติ ปีละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน และในปี 2566 เราคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นกัน เพราะธรรมชาติได้รับการกลับมาฟื้นฟูและสวยงามยิ่งกว่าเดิม รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา วัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวแห่งความเชื่อ ความศรัทธา เกิดขึ้นอีกหลายแห่งทั่วประเทศ

ตลอดระยะเวลา 5 ปี ในการดำเนินโครงการที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจในการทำประกันภัยเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 80 เปอร์เซ็นต์ และเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นผลตอบรับที่ดี สำหรับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางสำนักอุทยานแห่งชาติ คาดการณ์ว่าในปี 2566 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก จึงมีแผนที่จะรองรับและดูแลนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง จึงนับได้ว่า “โครงการท่องเที่ยวทั่วไทย อุ่นใจเมื่อไปอุทยาน” นี้ เป็นโครงการสำคัญที่มีส่วนในการสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว และเพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีคุณภาพ ทำให้ประเทศไทยของเราเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือน อันจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเติบโตขึ้นเป็นลำดับ

สำหรับแผนประกันภัยนักท่องเที่ยวอุทยาน “ภายใต้โครงการท่องเที่ยวทั่วไทย อุ่นใจเมื่อไปอุทยาน” จะให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาลรวมถึงกรณีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุผู้เอาประกันภัยมีอายุตั้งแต่ 3-60 ปี มีระยะเวลาคุ้มครองนาน 7 วัน นับตั้งแต่ได้รับตราประทับการเข้าชมอุทยานโดยมีค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยวเพียง 10 บาทได้รับความคุ้มครองสูงถึง 300,000 บาท และสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจ่ายค่าเบี้ยในราคา 40 บาทได้รับความคุ้มครองสูงถึง 400,000 บาทและสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเครือข่ายได้กว่า 370 แห่งทั่วประเทศ

ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ เป็นโครงการสำคัญที่มีส่วนในการสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว และเพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีคุณภาพ ทำให้ประเทศไทยของเราเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือน อันจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเติบโตขึ้นเป็นลำดับต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด