• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

กรมอุทยานฯ สนองนโยบาย รมว.ทส. กวาดล้างขบวนการค้าสัตว์ป่าชายแดน ยึดซากสัตว์ป่ากว่า 100 กิโลกรัมที่เชียงราย

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ตามนโยบาย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้หน่วยงานในสังกัด เข้มงวดกวดขันการป้องกันปราบปรามการลักลอบค้า และครอบครองสัตว์ป่าผิดกฎหมาย การค้าสัตว์ป่าทางออนไลน์ การค้าในพื้นที่ตามแนวชายแดน และทุกแหล่งค้าทั่วประเทศ ซึ่งการล่าสัตว์ป่า ในประเทศเพื่อนบ้านเป็นอีกหนึ่ง สาเหตุที่เกิดไฟป่าและหมอกควันข้ามแดนทำให้เกิดปัญหามลพิษเกี่ยวกับฝุ่น PM 2.5 นั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 04.45 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 นายปิยะพงษ์ ศรไชย หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 สปป.3 (ภาคเหนือ) ได้สนธิกำลังร่วมปฏิบัติการระหว่างหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) และด่านตรวจสัตว์ป่าเชียงของ กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา เข้าตรวจสอบการลักลอบขนซากสัตว์ป่าบริเวณจุดผ่อนปรนแจมป๋อง ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนติดกับหมู่บ้านด่าน แขวงบ่อแก้ว เมืองห้วยทราย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)

จากการปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่พบซากสัตว์ป่าจำนวนมากที่เตรียมนำเข้ามาจำหน่าย ประกอบด้วย ซากไก่ฟ้าหลังเทา จํานวน 4 ตัว น้ำหนัก 5.2 กิโลกรัม ซากอีเห็น จํานวน 7 ตัว น้ำหนัก 20.5 กิโลกรัม กระจงเล็ก จำนวน 1 ตัว น้ำหนัก 1.3 กิโลกรัม ซากเม่นใหญ่ จำนวน 6 ตัว น้ำหนัก 31.8 กิโลกรัม หัวเก้ง จำนวน 5 ตัว น้ำหนัก 6.5 กิโลกรัม ซากเก้งขาหลัง 5 ชิ้น น้ำหนัก 19.4 กิโลกรัม ซากเก้งขาหน้า 4 ชิ้น น้ำหนัก 12.65 กิโลกรัมหัวหมีขอ 1 หัว น้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม และซากขาหน้าหมีขอ 1 ชิ้น น้ำหนัก 3.15 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 101.7 กิโลกรัม โดยไม่พบผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำซากสัตว์ป่าของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงแก่น อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย และประสานด่านกักกันสัตว์เชียงราย กรมปศุสัตว์ เพื่อทำลายด้วยเตาเผาซากสัตว์ตามระเบียบ

นายปิยะพงษ์ ศรไชย หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 กล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสกัดกั้นการลักลอบค้าสัตว์ป่าตามแนวชายแดน ซึ่งนอกจากจะเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าแล้ว ยังเป็นการป้องกันปัญหาไฟป่าและหมอกควันข้ามแดนที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะยังคงเข้มงวดในการตรวจตราและปราบปรามการกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด