ภูกระดึง คือ ตัวแทนความงามแห่งขุนเขาของเมืองเลยทั้งหมดทั้งมวล เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติ ที่มีผู้คนไปเยี่ยมเยือน และฝากรอยเท้าเอาไว้มากที่สุด ด้วยเสน่ห์ของป่าสนบนยอดเขาที่ราบเรียบ และน้ำตกแสนงาม ท่ามกลางสีแดงเพลิงของไฟเดือนห้า หรือเมเปิลที่พร้อมใจกันเติมแต่งให้ป่าบนภูกระดึงงามเหนือใคร
ภูกระดึง เป็นทั้งอุทยานแห่งชาติแห่งแรกในจังหวัดเลยและอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ของไทย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีพื้นที่ครอบคลุมป่าสมบูรณ์ในเขตอำเภอภูกระดึงประมาณ 348.12 ตารางกิโลมตร ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2505
ภูกระดึงคือขุนเขามหัศจรรย์แห่งเมืองเลย อาจนับเป็นสุดยอดของภูหินทรายบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ที่มีรอยเท้าของนักเดินทางเหยียบย่ำขึ้นไปมากที่สุด อีกทั้งยังมีพรรณไม้จากเขตอบอุ่นของโลกปรากฎอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นของภูหินทรายแห่งนี้ด้วย
หากมองภูกระดึงจากระยะไกลจะเห็นเป็นภูเขายอดตัดราบเรียบที่เรียกว่าที่ราบรูปโต๊ะ (Tableland) อันเกิดจากธรณีสัณฐานเดิมของภาคอีสานเป็นชั้นหินทรายที่วางตัวในแนวราบ เมื่อเปลือกโลกยกตัวสูงขึ้น จึงกลายเป็นภูเขายอดตัดลักษณะดังกล่าว ส่วนบนสุดของภูกระดึงมีลักษณะเป็นทุ่งราบกว้างใหญ่ถึง 60 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถูกปกคลุมด้วยทุ่งหญ้า ป๋าสนสองใบ ป่าสนสามใบ ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบเขา สลับกับเนินเตี้ยๆ โดยมีคอกเมยเป็นยอดเขาสูงสุด ความสูงประมาณ 1,350 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง
ความโดดเด่นด้านหนึ่งของภูกระดึงคือ สุดยอดพรรณไม้เขตหนาวที่กระจายพันธุ์ลงมาถึง เช่น กุหลาบขาว กุหลาบแดง และก่วมแดง ที่มีชื่ออื่นว่า เมเปิลแดงหรือไฟเดือนห้า ลักษณะเป็นไม้ต้นสูงใหญ่ ชอบขึ้นอยู่ริมลำธารในป่าดงดิบที่ความสูง 1,300-2,400 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ก่วมแดงจะผลัดใบเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน น่าตื่นตาเป็นที่สุด โดยเฉพาะในป่าปิดซึ่งมีน้ำตกหลายแห่ง เช่น น้ำตกขุนพอง น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกเพ็ญพบใหม่ และน้ำตกธารสวรรค์
ยอดภูกระดึงมีสภาพอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปี จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนและชมทิวทัศน์บริเวณเหลี่ยมผาต่าง ๆ ที่ขึ้นชื่อเช่น ผานกแอ่น ซึ่งเป็นจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้นที่มีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเห็นทะเลหมอกห่มคลุมอยู่ทั่วหุบเขา ไม่ไกลกันนักคือผาหมากดูก ซึ่งเป็นจุดชมดวงอาทิตย์ตกได้สวยงาม นอกจากนี้ ผาหล่มสักยังเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึงที่มีผู้รู้จักกันมากที่สุด เพราะจะมีภาพคุ้นตาของชะง่อนหินที่ยื่นล้ำออกไปจากหน้าผา และต้นสนขนาดใหญ่ เป็นจุดชมดวงอาทิตย์ตกที่สวยงามจับใจอย่างยิ่ง
การเดินทาง จากอำเภอเมืองเลย ไปตามทางหลวงหมายเลข 201 เมื่อถึงอำเภอภูกระดึงเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2019 จนไปสิ้นสุดที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ รวมระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร หรือถ้ามาจากทางใต้ของจังหวัดเลยใช้ทางหลวงหมายเลข 201 ผ่านอำเภอชุมแพจังหวัดขอนแก่น เมื่อเข้าเขตจ้งหวัดเลยแล้ว จะผ่านบ้านผานกเค้าตรงไปอีกราว 8 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตรงสามแยก เข้าทางหลวงหมายเลข2019 ตรงไปจุนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูกระดึงระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร
ที่มา.. หนังสือที่สุดอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย สำนักอุทยานแห่งชาติ (ISBN 978-616-316-504-6)