นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สั่งการด่วนให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) เร่งขับเคลื่อนมาตรการเรือธง “เคาะประตูบ้าน” อย่างเข้มข้น เพื่อสร้างการรับรู้และขอความร่วมมือจากประชาชนในการป้องกันไฟป่าและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูไฟป่าอย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการลดพื้นที่เผาไหม้ในป่าอนุรักษ์ลงให้ได้ถึงร้อยละ 40 (เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี)

นายสุชาติ ชมกลิ่น เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันยังคงพบกลุ่มบุคคลลักลอบเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ หาของป่า หรือแม้แต่การจุดไฟกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อทรัพยากรป่าไม้และสุขภาพของประชาชน มาตรการ “เคาะประตูบ้าน” ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญเชิงรุกที่ ทส. กำหนดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนโดยตรงในการ “ห้ามเผา” เพื่อป้องกันไฟป่าและลดฝุ่น PM2.5 เราจะใช้กลไกท้องถิ่นเป็นแกนหลักควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมดูแลรักษาป่าอย่างยั่งยืน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงผลการขับเคลื่อนมาตรการฯ ว่า กรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้สถานีควบคุมไฟป่าและหน่วยงานในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกครัวเรือนของชุมชนเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 1-8 ธันวาคม 2568 โดยกิจกรรม “เคาะประตูบ้าน” มุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ขอความร่วมมือในการงดเว้นการเผาในทุกรูปแบบ และเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการเฝ้าระวังและป้องกันไฟป่า
ตัวอย่างพื้นที่ดำเนินการสำคัญในห้วงวันที่ โดยเมื่อวันที่ 1-8 ธันวาคม 2568
- ภาคเหนือ : สถานีควบคุมไฟป่าปางมะผ้า (แม่ฮ่องสอน) สถานีควบคุมไฟป่าดอยภูคา (น่าน) และสถานีควบคุมไฟป่าพะเยา (เชียงราย)
- ภาคกลาง : สถานีควบคุมไฟป่าหุบกะพง (เพชรบุรี) ดำเนินการที่หมู่บ้านดอนขุนห้วยและหมู่บ้านใหม่พัฒนา
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จัดกิจกรรม Kick off ภายใต้แนวคิด “หยุดเผาหยุดฝุ่นเพื่อคุณเพื่อเรา” ที่ภูสอยดาว (พิษณุโลก) และดำเนินการครอบคลุมหลายตำบลรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติภูเรือ (เลย) และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง
- ภาคตะวันตก : สถานีควบคุมไฟป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านทิศตะวันตก (กาญจนบุรี) ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำหนดแนวทางการจัดการเชื้อเพลิงด้วยการชิงเก็บชิงเผาพื้นที่ทำกินของชุมชนตามมาตรา 121 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเน้นย้ำในตอนท้ายว่า “การแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละออง PM2.5 ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการเฝ้าระวังและป้องกัน “กระทรวงจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ฝ่าฝืนลักลอบเผาป่า เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการจัดการไฟป่าอย่างยั่งยืน และขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมมือกันในการ “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” เพื่ออากาศที่สะอาดและสิ่งแวดล้อมที่ดีสำหรับคนรุ่นต่อไป” นายสุชาติกล่าวทิ้งท้าย
กรมอุทยานแห่งชาติฯ ขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ หากพบเห็นการลักลอบเผาป่า สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง.

