• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

กรมอุทยานฯ เชิญบริจาคเงินช่วยเหลือสัตว์ป่า ‘โครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ฯ’ ถึง 31 ธ.ค. 66 นี้

นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เปิดเผยว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัด โครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า ในความดูแลกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร มูลนิธิ บริษัท กลุ่มบุคคล หรือบุคคล ได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์ป่าของชาติ ผ่านกระบวนการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดูแลจัดการสุขภาพและสวัสดิภาพสัตว์ป่าในกรงเลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์ป่าที่อยู่นอกเหนือแผนการเพาะขยายพันธุ์ตามการดำเนินงานปกติของภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และมักพบปัญหาด้านสุขภาพร่วมด้วย จำเป็นต้องได้รับการดูแลอนุบาลอย่างเร่งด่วน และสัตว์ป่าจำนวนหนึ่งไม่สามารถปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ ต้องได้รับการดูแลในกรงเลี้ยงจนกว่าจะสิ้นอายุขัย

ปัจจุบันสัตว์ป่าในกรงเลี้ยงที่อยู่ในความดูแลของ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีที่มาด้วยกันหลายกรณี ได้แก่ สัตว์ป่าที่ทำการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เพื่อปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ สัตว์ป่าของกลางที่ได้รับมาจากการตรวจยึด จับกุม สัตว์ป่ากรณีแก้ไขปัญหา สัตว์ป่าพลัดหลงออกมาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน สัตว์ป่าที่ได้รับคืนจากผู้ได้รับใบอนุญาตครอบครอง และสัตว์ป่าที่รับมาจากกรณียกเลิกกิจการสวนสัตว์สาธารณะ สัตว์ป่าดังกล่าวอยู่ในความดูแลของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ซึ่งสัตว์ป่าทุกตัวที่อยู่ในกรงเลี้ยง จะต้องได้รับการดูแลจัดการด้านสุขภาพและสวัสดิภาพอย่างเหมาะสม ซึ่งนอกจากจะเป็นหน่วยงานที่รับดูแลสัตว์ป่าแล้ว ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย

จึงขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า ในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก โดยการโอนเงินบริจาคเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน เลขที่บัญชี 980-216-5379 ชื่อบัญชีโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ซึ่งการรับบริจาคดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ (กคร.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา และมีระยะเวลาการรับบริจาคถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

สำหรับสถานที่เลี้ยงสัตว์ป่าในโครงการมีทั้งสิ้น 27 แห่ง ได้แก่ 1. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน จังหวัดสระแก้ว 2. สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี 3. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางพระ จังหวัดชลบุรี 4. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จังหวัดชลบุรี 5. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี 6. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จังหวัดราชบุรี 7. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จังหวัดเพชรบุรี 8. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา จังหวัดพังงา 9. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าโตนงาช้าง จังหวัดสงขลา 10. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพัทลุง จังหวัดพัทลุง 11. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าโคกไม้เรือ จังหวัดนราธิวาส 12. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ 13. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด 14. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 15. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ จังหวัดศรีสะเกษ 16. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี 17. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์      18. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าดอยตุง จังหวัดเชียงราย 19. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าแม่ลาว จังหวัดเชียงราย 20. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าแม่จัน จังหวัดเชียงราย 21. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ 22. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยยางปาน จังหวัดเชียงใหม่ 23. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าปางตอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 24. ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก) 25. ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่)  26. ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) และ 27. ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด