อุทยานแห่งชาติสาละวิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เดินหน้าปฏิบัติตามนโยบายเร่งด่วนของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM2.5 อย่างเข้มข้น ด้วยการลงพื้นที่รณรงค์แบบ “เคาะประตูบ้าน” เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงผลกระทบของไฟป่าและมลพิษทางอากาศ
27 มกราคม 2568 นายลิขิต ไหวพรม นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ในฐานะหัวหน้าพื้นที่บริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการอุทยานแห่งชาติสาละวิน เปิดเผยว่า ได้แบ่งทีมลงพื้นที่
เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างตระหนักรู้เกี่ยวกับไฟป่าให้ชาวบ้านเขตอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 3 จุดสำคัญ ได้แก่ เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติสาละวินที่ สว.5 (ศาลา) ลงพื้นที่บ้านห้วยห้อม ตำบลแม่คง เจ้าหน้าที่จุดสกัดอุทยานแห่งชาติสาละวิน (โพซอ) ลงพื้นที่หย่อมบ้านห้วยปลาฝา และบ้านโพซอ ตำบลเสาหิน และเจ้าหน้าที่ชุดประชาสัมพันธ์อุทยานแห่งชาติสาละวิน ลงพื้นที่บ้านแม่กองคา ตำบลแม่ยวม
การรณรงค์ครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันแบบบูรณาการ โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชน ผ่านมาตรการสำคัญ ได้แก่
การสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังไฟป่าในชุมชน ด้วยการจัดตั้งจุดตรวจและระบบแจ้งเตือนไฟป่าแบบมีส่วนร่วม การให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของฝุ่น PM2.5 ที่มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและสุขภาพ การสร้างความเข้าใจเรื่องผลกระทบของการเผาในพื้นที่ป่าที่ส่งผลต่อระบบนิเวศและคุณภาพอากาศ การส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการลาดตระเวนและเฝ้าระวังไฟป่าและการสร้างเครือข่ายแจ้งเตือนกรณีพบเห็นการเผาหรือไฟไหม้ในพื้นที่
“การเคาะประตูบ้านเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะช่วยให้เจ้าหน้าที่ได้พูดคุยและสร้างความเข้าใจกับประชาชนแบบตัวต่อตัว ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสร้างความร่วมมือในการป้องกันไฟป่าได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากชาวบ้านโดยตรง เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติสาละวินได้วางแผนขยายพื้นที่การรณรงค์ไปยังหมู่บ้านอื่นๆ ในพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่มักเกิดไฟป่าซ้ำซาก เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไฟป่าที่อาจเกิดขึ้นในช่วงหน้าแล้งที่กำลังจะมาถึง พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของชุมชนในการเป็นหูเป็นตา และร่วมกันดูแลรักษาผืนป่าอันเป็นต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ” นายลิขิต กล่าว