วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ชี้แจงประเด็นงดประกอบอาหารทุกประเภทที่มีควันและกลิ่นรบกวนบริเวณพื้นที่กางเต็นท์หรือที่พักในอุทยานแห่งชาติ โดยกล่าวว่าสาเหตุที่สำนักอุทยานแห่งชาติ โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกประกาศฉบับนี้ สืบเนื่องจากข้อมูลที่ได้เก็บต่อเนื่องตรงที่บริเวณพื้นที่กางเต็นท์พบว่ามีผลกระทบเกิดขึ้น (กรมอุทยานฯ สั่งงดประกอบอาหารมีควันกลิ่นรบกวน พื้นที่กางเต็นท์-ที่พักในอุทยานฯ)
สมมุติในลานกางเต็นท์มีจำนวนเต็นท์ 400 หลัง ในการกางเต็นท์ที่ไม่ห่างกันมากเมื่อมีการประกอบอาหารพร้อมๆกัน เราจะมีครัวเคลื่อนที่ 400 ครัว จะมีผลกระทบทั้งควันและกลิ่นจะมีจำนวนมาก และมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มเช่นกันที่ต้องการไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ทั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องกลิ่นควันและเสียงเพียงอย่างเดียวที่มีผลกระทบ สิ่งที่มีผลอีกอย่างคือสัตว์ป่า อาจจะออกมาสร้างความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวได้ เนื่องจากได้กลิ่นอาหาร และผลกระทบเรื่องขยะที่เกิดขึ้นอาจากการทำอาหารจำนวนเจ้าหน้าที่ก็ไม่เพียงพอต่อการจัดการขยะในอุทยานเนื่องจากต้องทำงานในด้านอื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีจำนวนค่อนข้างจำกัด
โดยอุทยานแห่งชาติได้จัดให้มีร้านค้าสวัสดิการ พื้นที่ประกอบอาหาร สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว ดังนี้ 1. อุทยานฯ ที่มีร้านค้าสวัสดิการแล้ว จำนวน 120 แห่ง อยู่ระหว่างการเตรียมและปรับปรุงพื้นที่ สำหรับจัดทำร้านสวัสดิการ จำนวน 9 แห่ง 2. อุทยานฯ ที่จัดพื้นที่ประกอบอาหารหรือการแบ่งโซน โดยจะแบ่งโซนใกล้บริเวณลานกางเต็นท์หรือที่พักอาคารเอนกประสงค์ จำนวน 72 แห่ง และอยู่ระหว่างการเตรียมและปรับปรุงพื้นที่ จำนวน 5 แห่ง
3. อุทยานฯ ที่จัดให้เอกชนหรือชุมชนท้องถิ่นเข้ามาขออนุญาตจำหน่ายอาหารในช่วงเทศการต่างๆ ภายใต้การควบคุมของหัวหน้าอุทยานแห่งชาติโดยมีค่าธรรมเนียมตามระเบียบของอุทยานฯ จำนวน 44 แห่ง 4. อุทยานฯ ที่มีการใช้แนวทางอื่นๆ จำนวน 17 แห่ง โดยแนะนำให้นักท่องเที่ยวซื้ออาหารปรุงสำเร็จมารับประทานทานเองได้ หรือแนะนำให้เดินทางไปร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง เป็นต้น
ทั้งนี้ อาหารที่สามารถปรุงอย่างง่าย เช่น ชงชา – กาแฟ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง เป็นต้น ยังสามารถกระทำได้ โดยขอให้รักษาความสะอาดและจัดการขยะอย่างเคร่งครัด นายดำรัส ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติว่า “การเสพธรรมชาติอย่างแท้จริง ต้องไม่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อนผู้ร่วมพักพิงของท่านด้วย”