วันที่ 31 มีนาคม 2565 นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับรายงานจาก นางสาวนงพงา ปาเฉย นักกีฏวิทยาชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานวิจัยกีฏวิทยาและจุลชีววิทยาป่าไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช แจ้งว่าเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2565 ได้พบผีเสื้อไกเซอร์อิมพีเรียล (Teinopalpus imperialis) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นแมลงคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และเป็นแมลงที่อยู่ในบัญชีที่ 2 แห่งอนุสัญญา CITES มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งไม่มีรายงานการพบผีเสื้อชนิดนี้มานานมากกว่า 10 ปี
โดยการพบผีเสื้อไกเซอร์อิมพีเรียลครั้งนี้ เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เนื่องจากเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า ธรรมชาติและระบบนิเวศในพื้นที่ได้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เหมาะสมกับการดำรงชีวิตและขยายเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นอีกครั้ง จึงได้สั่งการให้ทีมนักวิจัยของสำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช เร่งดำเนินการเก็บข้อมูลทางชีววิทยาและนิเวศวิทยาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม พร้อมทั้งหาแนวทางอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรผีเสื้อไกเซอร์อิมพีเรียลดังกล่าว และทางอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกจึงได้มีความจำเป็นที่จะต้องสั่งปิดพื้นที่บริเวณที่พบผีเสื้อไกเซอร์อิมพีเรียลเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการรบกวนระบบนิเวศและพฤติกรรมของผีเสื้อชนิดนี้ เนื่องจากคาดว่าในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน เป็นฤดูผสมพันธุ์และการวางไข่ของผีเสื้อไกเซอร์อิมพีเรียล
สำหรับ ผีเสื้อไกเซอร์ (Teinopalpus imperialis) ลักษณะทั่วไป: ผีเสื้อเพศผู้ (Teinopalpus imperialis) และเพศเมีย Teinopalpus imperialis มีสีสัน ลวดลายที่ต่างกัน โดยเพศผู้มีขนาดเล็กกว่า และโคนปีกสีเขียวเข้มสะท้อนแสง ที่ปีกคู่หลังมีแถบสีเหลืองปรากฏที่กลางปีกรวมทั้งมีติ่งแหลมที่ปลายปีกคู่หลัง 1 ติ่ง ปลายติ่งสีเหลือง ส่วนเพศเมียโคนปีกสีเข้มเข้มเช่นกันส่วนปลายปีกสีเทาที่ปีกคู่หลังมีติ่งหางยาว 2 ติ่ง โดยติ่งที่ยาวที่สุดมีสีเหลืองที่ปลายติ่ง เป็นผีเสื้อที่บินเร็ว และปราดเปรียว มักจะเกาะบนต้นไม้สูง และจะพบบินในช่วงเวลาเช้า 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น มีเขตการแพร่กระจายที่ เนปาล ภูฏาน จนถึงภาคตะวันออกของเทือกเขาหิมาลายา ในประเทศอินเดีย (West Bengal, Meghalaya, Assam, Sikkim and Manipur) ตลอดจนภาคเหนือของประเทศเมียนมาร์ และมณฑลเสฉวนในจีน ซึ่งทั้งหมดพบในระดับความสูงมากกว่า 6000 ฟุต (ประมาณ 1800 เมตร) ประเทศไทย ลาว และเวียดนาม ในประเทศไทย มีรายงานการพบเพียง 3 แห่งเท่านั้น ทั้งหมดกระจายอยู่ในภาคเหนือ และมียอดเขาสูงมากกว่า 1800 เมตร คือ อุทยานแห่งชาติฟ้าห่มปก อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ และอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน