• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

กรมอุทยานฯ เฝ้าระวังโรคลัมปี สกิน หวั่นระบาดติดวัวแดงและควายป่า เขตรักษาพันธุ์ฯห้วยขาแข้ง

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Diaease) ในวัว ควาย ของเกษตรกรในพื้นที่ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ดังนั้น เพื่อป้องกันและเฝ้าระวัง ไม่ให้โรคลัมปี สกิน จาก วัว ควาย สัตว์เลี้ยงของราษฎรแพร่ระบาดไปติดวัวแดง และสัตว์ป่ามีกีบอื่นๆ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จึงได้ให้แนวทางการป้องกันโรคลัมปี สกิน ในสัตว์ป่า ดังนี้ 1. ขอให้กรมปศุสัตว์สนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้ปศุสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่รอบป่าอนุรักษ์ เพื่อลดโอกาสที่จะมีการแพร่เชื้อเข้าไปสัตว์ป่า โดยเฉพาะพื้นที่ห้วยขาแข้ง ที่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของควายป่าฝูงสุดท้ายของประเทศ 2. เข้มงวดในประเด็นการนำสัตว์ปศุสัตว์ เข้าไปในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 3. เข้มงวดระบบป้องกันเฝ้าระวังเชื้อโรค เข้าไปในพ่อแม่พันธุ์สัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงฯ 4. ให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการในสัตว์ป่า และเก็บตัวอย่างที่สงสัยส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ

ด้าน นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเข้มข้นในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคดังกล่าวไม่ให้ลามไปสู่สัตว์ป่า โดยประสานงานกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานี เพื่อทราบสถานการณ์ความรุนแรงของโรคอย่างใกล้ชิด พร้อมขอความร่วมมือราษฎรในพื้นที่ ไม่นำปศุสัตว์เข้ามาเลี้ยงใกล้แนวเขตอย่างเด็ดขาด และได้จัดเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ลาดตระเวน เฝ้าระวัง จำนวน 20 คน เฝ้าระวังเป็นจุดๆ เพื่อป้องกันการลักลอบนำปศุสัตว์มาเลี้ยงในพื้นที่ และผลักดันสัตว์ป่าที่จะออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ได้มอบหมายให้ นายอนึ่ง แรงเขตการณ์ พนักงานพิทักษ์ป่า เป็นหัวหน้าชุดนำเจ้าหน้าจากจุดสกัดที่ 5 จำนวน 7 คน ออกไปตรวจสอบวัวของราษฎรที่คาดว่าอาจจะเป็นโรคลัมปิ สกิน ของนายประดิษฐ์ อ่างล่า บ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 11 บ้านอ่างห้วยดง ซึ่งมีวัวทั้งหมด 34 ตัว พบ ว่ามี 7 ตัว มีตุ่มคล้ายโรคลัมปิ สกิน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ ได้มาเก็บตัวอย่างไปตรวจเช็คแล้ว อยู่ในระหว่างการรอผลตรวจ โดยในขณะที่คอยผลการตรวจนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขอให้เจ้าของวัว เลี้ยงวัวอยู่เฉพาะภายในบริเวณคอกของบ้าน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของวัวอย่างดียิ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด