• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

อธิบดีกรมอุทยานฯ ลงพื้นที่ตรวจโครงการ “บึงบอระเพ็ด” พร้อมเป็นหน่วยงานร่วมผลักดัน​ให้เป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ป่าบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีเป้าหมายในการการพัฒนาบึงบอระเพ็ดให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน และเป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับประชาชน โดยมีนายไชยา แดนโพธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) และนายจิระเดช บุญมาก หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ได้ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปข้อมูลโครงการพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำบึงบอระเพ็ด

นายจิระเดช บุญมาก หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ได้รายงานความคืบหน้าของโครงการสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะโครงการบริหารจัดการพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ที่เน้นการนำหลักการ “นาเปียกสลับแห้ง” มาใช้ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน โดยสามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 32 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรได้ถึง 1,420 บาทต่อไร่ ผลลัพธ์ที่น่าพอใจนี้ทำให้มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง​ เพื่อสนับสนุนโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม 5 ล้านบาท สำหรับโครงการส่งเสริมการปรับวิถีการเกษตรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนงานสำคัญในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2568 ได้แก่ แผนการจัดอบรมให้ความรู้เกษตรกรเกี่ยวกับการปลูกข้าวคาร์บอนต่ำและเทคนิคการทำนาเปียกสลับแห้ง และแผนจัดซื้อรถแทรกเตอร์พร้อมอุปกรณ์ปรับระดับหน้าดินเพื่อสนับสนุนการทำนาข้าวคาร์บอนต่ำ

นอกจากนี้ ยังมีการอนุมัติงบประมาณอีก 827,000 บาท เพื่อก่อสร้างห้องน้ำและห้องสุขาสำหรับนักท่องเที่ยวบริเวณจุดสกัดรางจิก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยโครงการทั้งหมดนี้จัดทำขึ้นตามแผนแม่บท 6 ประเด็นหลัก เพื่อฟื้นฟูและสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปรารถนาให้บึงบอระเพ็ดเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด โดยแผนแม่บทนี้เน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้ง 7 ภาคี ได้แก่ ภาครัฐ, เอกชน, ผู้นำศาสนา, วิชาการ, ประชาชน, ประชาสังคม และสื่อมวลชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านการบริหารจัดการน้ำ, การป้องกันการบุกรุก, การจัดการระบบนิเวศ และการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้กล่าวว่า การพัฒนาบึงบอระเพ็ดครั้งนี้ถือเป็นภารกิจสำคัญ กรมฯ จะเดินหน้าสานต่อโครงการต่างๆ และพร้อมเป็นหน่วยงานร่วมผลักดันเพื่อให้บึงบอระเพ็ดกลับมาเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนได้อย่างยั่งยืนต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด