• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ผอ.สบอ. 3 (บ้านโป่ง) ย้ำชัด ติดประกาศรื้อถอนบ้านนายพราน เป็นไปตามระเบียบกฏหมาย

วันที่ 19 มกราคม 2565 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กล่าวถึงกรณีดำเนินการติดประกาศคำสั่งให้ผู้ต้องหาในคดีล่าสัตว์ป่าคุ้มครองเสือโคร่ง ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จำนวน 5 ราย ที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ใน หมู่ที่ 4 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแหลม ให้รื้อถอน บ้าน หรือ โรงเรือน ไปให้พ้นในเขตอุทยานฯ ภายใน 30 วันนั้น

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เครือญาติ และ บริวาร ที่อยู่อาศัย ในบ้าน หรือโรงเรือนได้รับการผ่อนปรนให้อยู่อาศัยในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 แต่มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ด้านป้องกันพื้นที่ ป่าไม้และอื่นๆ ได้บัญญัติไว้ว่า ถ้ามีการ กระทำการใดๆ อันเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าใหม่ หรือขยายพื้นที่อยู่อาศัย ที่ทำกินเพิ่มเติม หรือเป็นการทำลาย หรือกระทบกระเทือนต่อการรักษาป่า หรือสิ่งแวดล้อมให้ดำเนินการ ตามกฎหมายโดยเฉียบขาด และเพื่อป้องกัน มิให้มีการยึดถือครอบครอง พื้นที่ ให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ สั่งให้ผู้กระทำความผิด ออกจากพื้นที่ ทำลาย รื้อถอน และหรือ ดำเนินการอื่นๆ ตามกฎหมายกำหนด เมื่อมีการฝ่าฝืน หรือผิดเงื่อนไข ผู้ต้องหา เครือญาติ หรือบริวาร ที่อาศัยอยู่ในที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมโดยไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครอง จึงต้องออกไป และรื้อถอน บ้าน หรือโรงเรือนไปให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ถ้าไม่ออกหรือไม่ยอมรื้อถอน ย่อมมีความผิด เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกา 2480/ 2541 (เนื่องจากการล่าเสือโคร่ง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และใกล้สูญพันธ์ จึงต้องแสดงความเด็ดขาด ในการบังคับใช้กฎหมายทุกมิติ  เป็นการป้องปรามไปในตัว เพื่อมิให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่างในการล่าเสือโคร่งอีก

ทั้งนี้ การที่ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ได้กระทำการล่าเสือโคร่งที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ใกล้ สูญพันธุ์ หรือกระทำการ ผิดกฎหมายข้อหาอื่น ๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ส่วนเครือญาติและบริวาร ที่อาศัยอยู่ในบ้านหรือโรงเรือนดังกล่าว รู้ หรือ ควรรู้ ในเรื่องดังกล่าว กับไม่ห้ามปราม การกระทำในลักษณะดังกล่าว เป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนต่อการรักษาป่าและสิ่งแวดล้อมจึงเป็นการฝ่าฝืนหรือผิดเงื่อนไข จึงต้องออกจากในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และต้องทำลาย รื้อถอน บ้านหรือ โรงเรือน ไปให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม หากฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (1) ฐาน ยึดถือครอบครอง ที่ดินภายในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปีถึง 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 4 แสน ถึง 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด