22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นประธานในพิธีปิด “โครงการสัมมนาอาสาสมัครพิทักษ์ป่า” ณ อุทยานแห่งชาติทับลาน โดยมีพลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พลเอก พงษ์เทพ เทศประทีป นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และผู้เข้าร่วมโครงการฯ กว่า 100 คน ร่วมในพิธี
โครงการนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) อุทยานแห่งชาติทับลาน และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่า โดยมีเครือข่ายจากพื้นที่รอบอุทยานแห่งชาติทับลานเข้าร่วม 11 เครือข่าย
การสัมมนาครั้งนี้เน้นประเด็นสำคัญได้แก่ สถานการณ์สัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ในอุทยานแห่งชาติทับลาน แผนการจัดการช้างป่าตามแนวทาง “ป้องกัน ผลักดัน ดึงดูด และเยียวยา” รวมถึงผลการวิจัยที่พบว่า จำนวนเสือโคร่งในผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่จากกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า ปี 2566-2568 มีประมาณ 24 ตัว โดยมีหมูป่าเป็นเหยื่อหลัก นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอระเบียบการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเจ้าหน้าที่และผู้ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า
ก่อนพิธีปิด พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้มอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา พร้อมมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวนายชาญชัย เนนเลิศ เจ้าหน้าที่ประจำชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า อุทยานแห่งชาติทับลาน ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ภายใต้โครงการมอบความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุกลุ่มสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าและบุคลากรประเภทสัญญาจ้างที่ปฏิบัติงานในพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติทั้ง 3 แห่ง
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ กล่าวในโอกาสปิดโครงการว่า “โครงการสัมมนาอาสาสมัครพิทักษ์ป่าถือเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้และการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้อาสาสมัครภาคประชาชนช่วยเหลือและร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการดูแลผืนป่าและสัตว์ป่าในท้องถิ่นภูมิลำเนาของตนให้คงอยู่ตามธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตลอดจนเพื่อสร้างองค์ความรู้ที่ถูกต้องด้านวิชาการและการปฏิบัติเพื่อการฟื้นฟูอนุรักษ์ผืนป่าและสัตว์ป่าอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง”
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงสถานการณ์ช้างป่าในประเทศไทยว่า ปัจจุบันมีประชากรช้างป่ากระจายตัวอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์กว่า 13 กลุ่มป่า โดยพื้นที่ที่พบช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์มากที่สุดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 คือ กลุ่มป่าแก่งกระจาน กลุ่มป่าตะวันออก และกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
อธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุว่า กรมฯ ได้วางมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คน ช้างป่า และสัตว์ป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ โดยดำเนินการหลายด้าน ทั้งการจัดจ้างราษฎรผู้ได้รับผลกระทบเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า การฟื้นฟูแหล่งอาหารและน้ำในป่าอนุรักษ์เพื่อดึงดูดให้ช้างป่ากลับเข้าไปอยู่อาศัย และการออกระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า พ.ศ. 2568 เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่ราษฎร
โครงการสัมมนาอาสาสมัครพิทักษ์ป่าครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรมอุทยานฯ และภาคีเครือข่ายในการสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และสัตว์ป่าอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าให้คงอยู่สืบไป.
