• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

กรมอุทยานฯ จัดประชุมคณะกรรมการโครงการอนุรักษ์ฯ ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สรุปผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และพิจารณาแผนการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

29 ตุลาคม 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ ได้จัดการประชุมคณะกรรมการฯ โดยมีนายพลัง ยิ้มพาณิชย์ รองศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิงนันทริกา ชันซื่อ กรรมการที่ปรึกษา นายอุกฤต สตภูมินทร์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทัพเรือภาคที่ 1,2,3 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง หน่วยเฉพาะกิจกองเรือยุทธการ 642 กรมประมง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และพิจารณาแผนการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

นายอรรถพล เจริญชันษา ได้กล่าวเปิดการประชุมโดยชี้แจงถึงวัตถุประสงค์หลักในการขับเคลื่อนงานตามพระดำริให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเน้นย้ำภารกิจสำคัญในการปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล โดยเฉพาะการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ เพื่อให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน โดยกล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลที่เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล โดยเฉพาะพะยูนและเต่าทะเล และให้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ เพื่อลดผลกระทบต่อทรัพยากร และขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีประสิทธิภาพตามพระดำริ”

ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งประกอบด้วย 4 แผนงานหลัก รวม 22 โครงการย่อย โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้

1. ศูนย์รักษาพยาบาลสัตว์ทะเลและเครือข่าย ตลอดปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พบสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นรวม 239 ตัว โดยฝั่งทะเลอันดามันพบ 203 ตัว ซึ่งเป็นพะยูนจำนวน 17 ตัว คิดเป็นร้อยละ 8 สำหรับศูนย์รักษาพยาบาลสัตว์ทะเลหายากทางฝั่งอ่าวไทย ได้ดำเนินการรักษาพยาบาลเต่าทะเลจำนวน 700 ตัว โดยมีอัตราการรักษาสำเร็จสูงถึงร้อยละ 93 ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นในการฟื้นฟูและส่งคืนสัตว์ทะเลหายากสู่ธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังได้จัดการอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากเบื้องต้นจำนวน 4 รุ่น มีผู้เข้ารับการอบรมรวม 160 คน เพื่อสร้างเครือข่ายและปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก

2. แผนงานอนุบาลและฟื้นฟูสัตว์ทะเลหายาก โครงการอนุรักษ์เต่าทะเลที่เกาะหมูยง ได้ดำเนินการเก็บรักษาไข่เต่าทะเลจำนวนกว่า 6,800 ฟอง ฟักออกเป็นลูกเต่าจำนวนกว่า 4,400 ตัว และได้ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติแล้วจำนวน 1,700 ตัว ส่วนการปล่อยเต่าทะเลที่ผ่านการรักษาพยาบาลคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่เกาะพานทองมีจำนวน 45 ตัว พร้อมทั้งมอบลูกเต่าทะเลพันธุ์ให้แก่ศูนย์วิจัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน 550 ตัว ขณะที่กรมประมงได้ดำเนินการเพาะพันธุ์หอยทะเลจำนวนกว่า 150,000 ตัว และฉลามกบจำนวน 100 ตัว เพื่อนำไปปล่อยคืนสู่แหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ

3. แผนงานศึกษาและวิจัยสัตว์ทะเลหายาก จากการติดตามพฤติกรรมการวางไข่ของเต่าทะเล พบรังเต่าทะเลจำนวน 975 รัง โดยในเขตอุทยานแห่งชาติพบจำนวน 124 รัง ประกอบด้วยเต่าตนุ เต่ามะเฟือง และเต่าหญ้า การเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเต่าทะเลเพื่อศึกษาพันธุกรรมจำนวน 193 ตัว พบว่ามีความเข้มข้นของโลหะหนัก ได้แก่ ทองแดง เหล็ก และสังกะสี เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญต่อการวางแผนบริหารจัดการและติดตามสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเล นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยโลกสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พัฒนายานเทียมต้นแบบสำหรับเต่าทะเลที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อช่วยให้สามารถว่ายน้ำและแสวงหาอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมสำคัญในการฟื้นฟูสัตว์ทะเลหายาก

4. ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ด้วยการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น กำหนดแนวทางและมาตรการอนุรักษ์พะยูนและแหล่งหญ้าทะเล จัดกิจกรรมวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ จัดกิจกรรมค่ายเยาวชนอนุรักษ์ปะการังและสัตว์ทะเลหายาก และอบรมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบแผนการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมุ่งเน้นการขยายผลความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา และเพิ่มความเข้มข้นในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ในทุกกิจกรรมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมจากประชาชนทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง

หลังจากนี้ คณะกรรมการฯ จะเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนที่กำหนดให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศอย่างยั่งยืนสืบไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด