28 ตุลาคม 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้เดินหน้านโยบายการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างเข้มข้น พร้อมเพิ่มมาตรการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลให้เกิดความยั่งยืน โดยเฉพาะการปกป้องแนวปะการังและระบบนิเวศใต้ทะเล พร้อมลงโทษผู้ฝ่าฝืนอย่างเคร่งครัดตามกฎหมาย สอดคล้องกับพระราชดำริและภารกิจของมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลของไทยให้เกิดความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน
จากรายงานของนายศิริวัฒน์ แสงฉวี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ระบุว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำโดยนายลัญจกร สุขสวัสดิ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ ได้นำทีมปฏิบัติการใต้น้ำติดตั้งทุ่นไข่ปลา บริเวณอ่าวถ้ำพระนาง ความยาว 100 เมตร เพื่อคุ้มครองพื้นที่วางไข่ของสัตว์น้ำ พร้อมทั้งดำน้ำเก็บขยะบริเวณเกาะห้า พบเศษซากอวนประมาณ 1 กิโลกรัม ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของมูลนิธิฯ ที่ให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ซากอวนที่พันติดปะการังเทียม เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.5 (อ่าวมาหยา) ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับนักท่องเที่ยวจำนวน 1 ราย ที่ลงเล่นน้ำในเขตห้ามบริเวณอ่าวมาหยา ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีกฎระเบียบเข้มงวด เพื่อคุ้มครองแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่มีความละเอียดอ่อน
ด้านนายศิริวัฒน์ สืบสาย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เผยว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ได้รับแจ้งเหตุจากเรือผู้ประกอบการดำน้ำลึก (เรือซีโทเปีย) พบลอบดักปลาจำนวน 2 อัน บริเวณเกาะบอน อยู่ในแนวน้ำลึก 35 เมตร และ 50 เมตร ซึ่งถือเป็นการบุกรุกและทำลายทรัพยากรธรรมชาติในเขตอุทยานแห่งชาติ รวมถึงเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ทะเลหายาก ที่มูลนิธิฯ ให้ความสำคัญในการดูแลและช่วยเหลือผ่านศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันได้วางแผนการกู้ลอบดังกล่าวภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยของการดำน้ำลึก โดยคำนึงถึงความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศและกระแสน้ำ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 สามารถกู้ลอบที่อยู่ในแนวน้ำลึก 35 เมตร ได้สำเร็จ จำนวน 1 อัน โดยทำการตัดอวนและนำขึ้นมาทำลาย ส่วนลอบในแนวน้ำลึก 50 เมตรไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเป็นความลึกที่เกินขีดความสามารถในการปฏิบัติงานใต้น้ำของเจ้าหน้าที่ แต่ได้รับการยืนยันจากนักท่องเที่ยวที่พบเห็นว่าได้ทำการตัดอวนของลอบดังกล่าวแล้ว ทำให้ลอบไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันได้จัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเกาะบอน โดยให้มีเจ้าหน้าที่ประจำบนเรือตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวนบริเวณเกาะบอนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด รวมทั้งคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
นายอรรถพล กล่าวเน้นย้ำว่า กรมอุทยานฯ มุ่งมั่นในการรักษาความสมดุลระหว่างการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยจะเข้มงวดกับผู้ที่ละเมิดกฎระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นการลงเล่นน้ำในพื้นที่ห้าม การทิ้งขยะ หรือการวางเครื่องมือดักจับสัตว์น้ำผิดกฎหมาย ซึ่งจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่
“การดำเนินงานของกรมอุทยานฯ สอดรับกับภารกิจของมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ดำเนินงานครอบคลุมทั้งการอนุรักษ์และฟื้นฟูแนวปะการังผ่านโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การเก็บกู้ซากอวนที่พันติดปะการังเทียม รวมถึงการดูแลและช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากผ่านศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร เพื่อช่วยเหลือสัตว์ทะเลที่เกยตื้น ตรวจสุขภาพ และศึกษาภัยคุกคามที่เกิดขึ้นกับสัตว์ทะเลหายาก รวมถึงปัญหาขยะทะเล ซึ่งเราจะร่วมมือกันทำงานเพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยคงความอุดมสมบูรณ์สืบไป” นายอรรถพล กล่าวทิ้งท้าย

