วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยว่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ได้เฝ้าระวังไม่ให้โรคลัมปี สกิน ในสัตว์เลี้ยงลามระบาดสู่สัตว์ป่า โดยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้ประสานงานกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานี เพื่อทราบสถานการณ์ ความรุนแรงของโรค พร้อมขอความร่วมมือราษฎรในพื้นที่ ไม่นำสัตว์เข้ามาเลี้ยงใกล้แนวเขตอย่างเด็ดขาด
โดยได้จัดเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าลาดตระเวนเฝ้าระวังเป็นจุด ๆ เพื่อป้องกันการลักลอบนำสัตว์มาเลี้ยงในพื้นที่ และผลักดันสัตว์ป่าที่จะออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พร้อมทั้งออกไปตรวจสอบวัวของราษฎรที่คาดว่าอาจจะเป็นโรคลัมปี สกิน ในพื้นที่ พบว่ามี 7 ตัว มีตุ่มคล้ายโรคลัมปี สกิน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้มาเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบแล้ว นอกจากนั้นสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ตรวจพบเนื้อทราย เกิดตุ่มนูน จำนวน 3 ตัว และสงสัยว่าอาจเป็นโรคลัมปี สกิน จึงได้ส่งตัวอย่างไปตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก ผลการตรวจพบว่าไม่ติดโรคลัมปี สกิน แต่อย่างใด
ทั้งนี้นายธนิตย์ กล่าวว่า นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งกำชับให้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) สั่งการให้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และพื้นที่เตรียมการกำหนดเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ ดำเนินการ สังเกตอาการป่วย และการตายผิดปกติของวัวป่า ควายป่า และกลุ่มสัตว์กีบในพื้นที่รับผิดชอบ และให้เข้มงวดในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคในสัตว์ป่า ติดตามสถานการณ์ของโรค สุขภาพ และการทำวัคซีนในสัตว์ปศุสัตว์โดยรอบพื้นที่ เพื่อประเมินสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยงาน กำหนดแนวเขตกันชน ห้ามไม่ให้มีการนำสัตว์เลี้ยงเข้าสู่พื้นที่ป่าอนุรักษ์ อย่างเด็ดขาด
สำหรับข้อมูล ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 มีสัตว์เลี้ยงป่วยสะสมทั้งหมด 139 ตัว หายป่วย 32 ตัว สัตว์เลี้ยงป่วยคงเหลือ 96 ตัว ตายสะสม 11 ตัว ท้องที่อำเภอห้วยคต 1 ตัว อำเภอบ้านไร่ 7 ตัว อำเภอเมือง 1 ตัว อำเภอหนองฉาง 1 ตัว และอำเภอลานสัก 1 ตัว โดยอายุของสัตว์ที่ตายอยู่ในช่วง 1-6 เดือน ซึ่งพื้นที่ที่มีสัตว์เลี้ยงตาย อยู่ห่างจากแนวเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ประมาณ 15 – 20 กิโลเมตร