นายสมเกียรติ ยอดมาลี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (ผอ.สบอ.11) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้มงวดปราบปรามการลักลอบค้าและล่าสัตว์ป่าอย่างเด็ดขาด ทั้งการเลี้ยงสัตว์ป่าผิดกฎหมาย และการบุกรุกพื้นที่ พร้อมทั้งให้รายงานการดำเนินการหากพบเจอกรณีดังกล่าว
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ สบอ.11 ได้รับแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 เกี่ยวกับการลักลอบครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จึงได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบทันที โดยนายชำนาญ เนตรผสม ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามประจำ สบอ.11 เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า และเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 (สปป.3 ภาคเหนือ)
ในการนี้ ได้มอบหมายให้นายวัชรพล อินทร์แป้น นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ดำเนินการขอหมายค้นจากศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. และได้เข้าตรวจค้นเป้าหมายเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ณ บ้านเป้าหมายใน ตำบลงิ้วงาม อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิด ประกอบด้วย นกกระรางคอดำ หรือนกซอฮู้ จำนวน 3 ตัว นกปรอดหัวโขน หรือนกกรงหัวจุก จำนวน 3 ตัว นกขุนทอง จำนวน 1 ตัวและซากนกปรอดสวน จำนวน 2 ซาก
ผู้ต้องหา นายพรพนา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ได้รับสารภาพว่าเป็นเจ้าของสัตว์ป่าทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย” ผอ.สบอ.11 กล่าว
นายสมเกียรติ ยืนยันว่า สบอ.11 จะเดินหน้าปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่าอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสการกระทำผิดผ่านสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันปกป้องและอนุรักษ์สัตว์ป่าของประเทศไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน.