• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

กรมอุทยานฯ แจงพื้นที่ป่าแหว่งเขตอุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต ตรวจยึดปี 64 เผยเป็นคดีพิเศษ DSI

วันที่ 13 มกราคม 2566 นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดี โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ตามที่เพจ ขยะมรสุม MONSOONGARBAGE THAILAND ได้มีการเผยภาพป่าแหว่งเป็นวงกว้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยระบุข้อความ “ป่าในอุทยานแหว่งไปไหน จ.ภูเก็ต เงียบกริ๊บเลย ไม่ตอบไม่เป็นไร อุทยานแห่งชาติ สิรินาถ จังหวัดภูเก็ต” กรมอุทยานแห่งชาติ ฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงประเด็นดังกล่าว


จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 อุทยานแห่งชาติสิรินาถดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจยึดพื้นที่บริเวณท้องที่ หมู่ที่ 1 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 15-3-71 ไร่ ซึ่งพื้นที่อยู่ในทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์แหลมพิศ – ปากบาง และในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยจับกุมผู้ต้องหา รวม 3 คน ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสาคู จังหวัดภูเก็ต ตามบันทึกประจำวันข้อ 8 เวลา 23.00 น. ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 คดีอาญาที่ 61/2564 และคดีดังกล่าวพนักงานอัยการจังหวัด มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง โดยมีคำวินิจฉัยว่า ผู้ต้องหาทั้งสามเข้าใจว่าได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวมาโดยชอบด้วยกฎหมายและมีอำนาจอยู่ และทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวต่อไปได้ คดีนี้ผู้ต้องหาทั้งสามให้การปฏิเสธและมีพยานเอกสารประกอบจนรับฟังได้ว่า ไม่มีเจตนาบุกรุกพื้นที่ป่าและพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ คดีมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง สำหรับความผิดฐานร่วมกันกระทำการหรืองดเว้นกระทำการไม่ว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และก่อความเสียหายแก่อุทยานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จะต้องรับผิดชอบในค่าเสียหายแก่รัฐ ซึ่งไม่ใช่โทษทางอาญาและไม่ใช่อัตราโทษปรับ ข้อกล่าวหาไม่มีบทกำหนดโทษทางอาญาไว้ และไม่มีมูลความรับผิดทางอาญาแต่อย่างใด จึงไม่อาจมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องตามบทบัญญัติในมาตราดังกล่าวได้ และในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสามทางแพ่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้กองนิติการพิจารณาดำเนินการเพื่อจะฟ้องคดีแพ่งต่อผู้กระทำการละเมิด ต่อไป


สำหรับกรณีการตรวจสอบพิสูจน์สิทธิในที่ดิน (ส.ค.1) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เห็นว่าแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน ( ส.ค.1) เลขที่ 283 ไม่ตรงกับตำแหน่งที่ดินที่ครอบครอง พื้นที่มีสภาพเป็นป่าที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงได้มีหนังสือ ฉบับลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 เรียนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ขอให้จังหวัดภูเก็ตแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพิสูจน์ตำแหน่งที่ดินของแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (สค. 1) เลขที่ 283 หมู่ที่ 1 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จากการตรวจสอบแปลงที่ดินบุกรุกดังกล่าว แปลงที่ดินทับซ้อนอยู่ในเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ สำหรับเลี้ยงสัตว์ ประกาศหวงห้าม เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2474 มีสภาพแปลงที่ดินเป็นป่าทั้งแปลงอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จึงขอให้พิจารณาดำเนินการจำหน่าย ส.ค. 1 เลขที่ 283 หมู่ที่ 1 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ออกจากทะเบียนการครอบครองที่ดินตามระเบียบราชการแต่ต่อมาจังหวัดภูเก็ตแจ้งผลการตรวจสอบว่า หลักฐาน ส.ค. 1 ไม่ตรงกับตำแหน่งที่ดินที่ครอบครอง มิใช่เป็นการแจ้งการครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และยังไม่มีการพิสูจน์ตำแหน่งที่ดินตามหลักฐาน ส.ค. 1 แต่อย่างใด จึงไม่สามารถดำเนินการจำหน่าย ส.ค. 1 เลขที่ 283 หมู่ที่ 1 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ตามระเบียบกรมที่ดินได้

โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มิได้ปล่อยปละละเลยเรื่องดังกล่าว โดยได้พยายามที่จะรักษาผืนป่าและทวงคืนให้กลับมาเป็นของรัฐ โดยได้ขอความอนุเคราะห์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พิจารณาสอบสวน ตำแหน่งอาณาเขตที่ข้างเคียง เนื้อที่อยู่ในพื้นที่บริเวณใด และมีการนำ ส.ค.1 ฉบับดังกล่าวไปออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตามกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด