วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยว่า ตามที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ได้ออกตรวจสอบเสือโคร่งมาทำร้ายแพะของชาวบ้าน ทำให้แพะโดนเสือกัดตายไป 1 ตัว เป็นแพะท้องแก่ตัวเมีย ถูกกัดบริเวณหัว ส่วนแพะอีก 1 ตัว ได้รับบาดเจ็บ บริเวณพื้นที่เตรียมการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทับเสลา-ห้วยระบำ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น (ด่วน! เสือโคร่งห้วยขาแข้งกัดแพะท้องแก่ตาย จนท.เข้าตรวจสอบเร่งผลักดันกลับเข้าป่า)
ล่าสุด หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ ได้นำเครื่องตรวจติดตามสัญญาณวิทยุที่ติดกับปลอกคอเสือโคร่งที่เคยใช้ในพื้นที่ใกล้เคียงมาตรวจสอบ ซึ่งผลปรากฎว่าสัญญาณวิทยุที่ติดกับปลอกคอเสือโคร่งที่เคยใช้ในพื้นที่ใกล้เคียงไม่สามารถรับสัญญาณวิทยุจากปลอกคอเสือโคร่งได้ อีกทั้งชาวบ้านที่หาปลาในบริเวณจุดเกิดเหตุ ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเห็นเสือตัวดังกล่าวข้ามกลับเข้าป่าไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาทและสร้างความอุ่นใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ จึงได้สั่งการให้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทับเสลา-ห้วยระบำ วางแผนปฏิบัติงานร่วมกันเฝ้าระวัง โดยให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จัดชุดลาดตระเวน 2 ชุด รวม 10 คน เฝ้าระวังป้องกันพื้นที่ 2 จุด พร้อมทั้งให้พื้นที่เตรียมการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทับเสลา-ห้วยระบำ จัดเจ้าหน้าที่ 10 คน เฝ้าระวังบริเวณชายขอบพื้นที่ชุมชนจนกว่าเชื่อมั่นว่าเสือกลับสู่ป่าแน่นอนแล้ว โดยประสานกับผู้นำชุมชน และราษฎรอย่างใกล้ชิดในการช่วยเฝ้าระวัง เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านและสัตว์เลี้ยงต่อไป