• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ฉลอง 160 ปี ‘ไทย-เยอรมนี’ เปิดเส้นทางเดินผากล้วยไม้-น้ำตกเหวสุวัต สานความร่วมมือการอนุรักษ์

วันที่ 2 มีนาคม 2565 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย บริษัท บีกริม เพาเวอร์ และมูลนิธิอมตะ เปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ผากล้วยไม้ – น้ำตกเหวสุวัต” รำลึกวาระความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ในวาระครบรอบ 160 ปี ความสัมพันธ์ไทย – เยอรมนี โดย นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมกับ ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) และนายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานมูลนิธิอมตะ และนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมพิธีเปิด เพื่อรำลึกวาระความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยมี ฯพณฯ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ประธานมูลนิธิรัฐบุรุษฯ และประธานมูลนิธิอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นประธานในพิธีเปิด ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดปราจีนบุรี

นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า พิธีเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติความสัมพันธ์ไทย-เยอรมัน ครบรอบ 160 ปี เป็นความร่วมมือไตรภาคีระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด และมูลนิธิอมตะ ได้ร่วมกันปรับปรุงเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติผากล้วยไม้ – น้ำตกเหวสุวัต เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติ แหล่งศึกษาเรียนรู้ แหล่งศึกษาวิจัย ด้านนิเวศวิทยา เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรทางธรรมชาติ นำไปสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการส่งเสริมให้มีห้องเรียนกลางแจ้ง ให้เป็นแหล่งข้อมูลทางธรรมชาติสำหรับทุกคน นอกจากนี้การเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติไทย-เยอรมัน ในวันนี้ยังเป็นการกระชับมิตรภาพระหว่างสองประเทศ อันจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับเยอรมนีในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ต่อไป

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIMและกรรมการบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ถือเป็นโอกาสอันดีในการเปิด “เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติความสัมพันธ์ไทย-เยอรมันครบรอบ 160 ปี (ผากล้วยไม้-น้ำตก เหวสุวัต)” เพื่อเฉลิมฉลองของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณะรัฐเยอรมนี ที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ และได้มีการสานต่อความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ มาถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ทางการค้าด้านการเศรษฐกิจและวิชาการ การถ่ายทอดวิชาการและเทคโนโลยี การส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์การแบ่งปันเทคโนโลยีการผลิตสาขาการเกษตรและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการจัดการทรัพยากรน้ำให้ยั่งยืน และความร่วมมือในการพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในด้านความสัมพันธ์ทางการค้าภาคเอกชนในระยะแรกมีการค้าหลากหลาย โดย บี.กริม เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยังคงดำเนินกิจการในไทยมาถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลายาวนานถึง 143 ปีเริ่มต้นจากการเข้ามาเปิดห้างขายยาตำหรับตะวันตก ปัจจุบันมีการดำเนินธุรกิจหลายหลายประเภท ทั้งด้านอุตสาหกรรม ด้านสุขภาพ ด้านไลฟ์สไตล์ ด้านคมนาคม โดยมีธุรกิจพลังงานเป็นธุรกิจหลัก โดยมุ่งสร้างประโยชน์ให้กับสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิด “เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติความสัมพันธ์ไทยเยอรมันครบรอบ 160 ปี (ผากล้วยไม้-น้ำตกเหวสุวัต)” ในครั้งนี้ ยังเป็นการย้ำความสำคัญในด้านการอนุรักษ์ของทั้งสองประเทศ ในการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้ศึกษาธรรมชาติ “การปรับปรุงเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ผากล้วยไม้-น้ำตกเหวสุวัต ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษา ธรรมชาติที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในประเทศไทย แสดงถึงความร่วมมือกันด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของทั้งสองประเทศและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นับเป็นโอกาสอันดีในการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ในครั้งนี้” ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าว นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวยังตอบโจทย์วิสัยทัศน์ของ บี.กริม ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตลอด 143 ปี ภายใต้ปรัชญา การดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี เพื่อสร้างความศิวิไลซ์ภายใต้ความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ โดยมุ่งเน้นการสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนและสังคม พร้อมให้ความสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า

สำหรับเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติความสัมพันธ์ ไทย-เยอรมันครบรอบ 160 ปี (ผากล้วยไม้ – น้ำตกเหวสุวัต)” ระยะทาง 3.4 กิโลเมตรจะเป็นประโยชน์ และสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป ในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่เชื่อมระหว่างสองน้ำตกเป็นเส้นทางลัดเลาะไปตามลำห้วยลำตะคองผ่านป่าไผ่สลับกับป่าดิบ-แล้งเป็นระยะ ๆ ในฤดูฝนจะได้ยินเสียงน้ำตกผากล้วยไม้ดังกึกก้อง ตลอดเส้นทาง แต่เมื่อน้ำลดลงในฤดูแล้ง จะได้พบเห็นร่องรอยการไหลของหินลาวาภูเขาไฟเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน รวมทั้งดอกไม้หินซึ่งเป็นพืชชนิดใหม่ของโลกที่จะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้ได้พบเห็นด้วยรวมทั้ง หวายแดงอันเป็นที่มาของชื่อน้ำตกที่ผลิดอกเป็นช่อยาวสีแดงโดดเด่นบริเวณผาน้ำตกในช่วงเดือนเมษายน โดยใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2-3 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด