วันที่ 11 มกราคม 2565 นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 พร้อมด้วย นายสุรกานต์ เรืองอักษร ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าสายตรวจปราบปรามประจำ สบอ.11 สายที่ 1 พิษณุโลก และนายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพิเศษ สบอ.11 ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรบางกระทุ่ม และชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.4 บก.ปทส. หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 3 สปป.3 (ภาคเหนือ) ได้สนธิกำลังจับกุมชายผู้กระทำผิด 1 ราย คือ นายเสนาะ บัวประชุม อายุ 64 ปี ในข้อกล่าวหากระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” พร้อมของกลางเป็นนกที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตรวจยึดได้ขณะถูกกักขังอยู่ในกรง ประกอบด้วย นกอีลุ้ม (Gallicrex cinerea) จำนวน 12 ตัว นกอีล้ำ หรือ นกอีดำ (Gallinula chloropus) จำนวน 5 ตัว นกกวัก (Amaurornis phoenicurus) จำนวน 2 ตัว และ นกเขาไฟ (Streptopelia tranquebarico) จำนวน 1 ตัว
การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 โดยนายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพิเศษ สบอ.11 ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.4 บก.ปทส เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ว่ามีการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมคลิปภาพเคลื่อนไหว หลังจากมีพลเมืองดีร้องเรียนเข้ามาว่าในพื้นที่ หมู่ 9 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก มีเสียงนก ซึ่งเชื่อว่าเป็นนกที่จับได้จากธรรมชาติ ส่งเสียงดังรบกวน ก่อความเดือดร้อนรำคาญเป็นอย่างมาก หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพิเศษ สบอ.11 จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมกับประสานส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อขอข้อมูลการขออนุญาตครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการวางแผนตรวจสอบ
จนกระทั่งวันที่ 11 มกราคม 2565 ชุดปฏิบัติเฉพาะกิจพิเศษ สบอ.11 ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดังกล่าว เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 9 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เป็นบ้านไม่มีรั้วและประตู พบนายเสนาะ บัวประชุม อายุ 64 ปี ในบริเวณบ้านมีนกถูกขังอยู่ในกรง เจ้าหน้าที่จึงสอบถามถึงใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยผู้ถูกจับกุมได้นำใบการอนุญาตครอบครองมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่มีแค่นกกวักและนกปรอดหัวจุกที่มีการขออนุญาตในเอกสาร แต่นกได้ตายไปแล้ว จากนั้นจึงได้ให้ผู้ถูกจับกุมนำตรวจสอบในบริเวณบ้าน พบนกอยู่ในกรงหลายชนิด จากการตรวจสอบพบนกที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ปี พ.ศ. 2546 จำนวน 4 ชนิด 20 ตัว จากการสอบถามแจ้งว่าไม่มีใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองแต่อย่างใด และยังไม่ได้นำไปขออนุญาตครอบครองต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ได้แจ้งผู้ถูกจับกุมว่า มีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 จึงควบคุมตัวพร้อมด้วยของกลางไปที่ สภ.บางกระทุ่ม เพื่อทำบันทึกการจับกุมและนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
จากเหตุการณ์ดังกล่าว นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เปิดเผยว่า “การจับกุมครั้งนี้ ผลสืบเนื่องจากข้อมูลการข่าวของตำรวจ.ปทส.ว่า มีการล่อ (ต่อ) นกหลายชนิดอาทิ นกล้ำ นกกวัก นกภูเขาไฟ ซึ่งถือว่าเป็นความผิด มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ อดีตเคยได้รับการอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าอยู่แล้วเพื่อการเลี้ยงดูเท่านั้น แต่ปัจจุบันไม่ได้ครอบครองนก (เดิม) ที่ขออนุญาตไว้ ฉะนั้น ผู้ต้องหาครอบครองนกต่างๆ จึงมีความผิด นำส่งคดี สภ.บางกระทุ่ม เพื่อดำเนินคดีการตามกฎหมายต่อไป”