วันที่ 17 กันยายน 2564 นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่หน่วยฯพญาเสือ เจ้าหน้าที่สายตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและช่วยเหลือแก้ปัญหาสัตว์ป่า ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ท้องที่ จังหวัดชุมพร ได้ร่วมกันวางแผนจับกุม การลักลอบค้าซากสัตว์ป่าออนไลน์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งมีพฤติกรรมโพสต์ขายซากสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562
โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อขอซื้อซากหัวกระทิงพร้อมเขาทั้งสองข้าง เพื่อทำการสืบสวนขยายผลให้รู้สานที่เก็บซากสัตว์ป่า จนกระทั่งวันที่ 16 กันยายน 2564 ได้นัดหมายส่งมอบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เมื่อผู้ซื้อได้ตรวจสอบซากหัวกระทิงแล้วพบว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจริงตามที่เสนอขายจึงได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมทั้งขยายผลตรวจยึดของกลางเพิ่มเติม จากการตรวจที่พักพบ ซากสัตว์ป่าอีก จำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย ซากเขากระทิงหรือเมย (Bos gaurus) จำนวน 23 ชิ้น ซากเขากวางป่า(Cervus unicolor) จำนวน 130 ชิ้น ซากกรามช้าง (Elephas maximus) จำนวน 12 ชิ้น และซากเขาเลียงผาหรือเยืองหรือกูรำหรือโครำ(Capricornis sumatraensis) จำนวน 3 ชิ้น
ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่ง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากสัตว์ป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามมาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ฐาน “ค้าซากสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามมาตรา 29 ประกอบมาตรา 89 วรรคหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากตะโก จังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป