• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

จนท.ลาดตระเวน รวบผู้ต้องหา 4 ราย ลักลอบตัด ‘ไม้กฤษณา’ ในเขตอุทยานฯเขาใหญ่

วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งลักลอบเข้ามาหาไม้กฤษณา หรือไม้หอม ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา 4 ราย ซึ่งเป็นไปตามมาตรการปรับแผนการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือ SMART Patrol system ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้สั่งการในที่ประชุมให้ทุกชุดปฏิบัติการฯ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการลาดตระเวน จนกระทั่งสามารถนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ในครั้งนี้

สำหรับคดีแรก เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 15.00 น. นำโดยนายวิโรจน์ สดกลาง หัวหน้าสายตรวจส่วนกลางชุดที่ 2 ได้จับกุมผู้ต้องหาชาวไทย บริเวณป่าห้วยกะลา ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนาย โดยได้แกะรอยผู้ต้องหาจนถึงที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงคนกำลังใช้ขวานสับต้นไม้กฤษณา จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม สอบถามผู้ต้องหาทราบว่า มีภูมิลำเนาอยู่บ้านหนองหมากฝ้าย ตำบลหนองหมากฝ้าย อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมกับพวกอีก 1 คน ซึ่งหลบหนีไปได้ เข้ามาลักลอบหาไม้กฤษณา ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 จนกระทั่งถูกจับในครั้งนี้ ของกลางเป็นชิ้นไม้กฤษณา น้ำหนักประมาณ 12 กก. ขวาน และเลื่อยคันธนู เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก

สำหรับคดีที่ 2 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 09.00 น. นำโดยนายวรวุฒิ กันประชุม หัวหน้าสายตรวจส่วนกลางชุดที่ 1 ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชาวกัมพูชา จำนวน 2 ราย ได้ที่บริเวณป่าเขาแหลม หลังจากนั้นจึงวางแผนขยายผล จนสามารถแกะรอยตามจับผู้ต้องหาชาวกัมพูชาได้อีก 1 ราย บริเวณป่าหลังวัดโต่งโต้น ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน ที่เข้ามาลักลอบหาไม้กฤษณาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ของกลางประกอบด้วย ไม้กฤษณา น้ำหนักประมาณ 30 กก. เลื่อย ขวาน มีดพร้า อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี

นายอดิศักดิ์ฯ กล่าวว่า “ทุกวันที่ 5 ของเดือน จะมีการจัดประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ซึ่งตนได้สั่งการในที่ประชุมเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ให้หน่วยพิทักษ์ฯทุกหน่วย ชุดสายตรวจส่วนกลางทุกชุด ปรับแผนการออกตรวจลาดตระเวน เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากขึ้น ให้ปรับเปลี่ยนเส้นทางการเข้า-ออก ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาในการออกตรวจ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการปฏิบัติงาน จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ถึง 2 คดี ผู้ต้องหา 4 ราย ในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยก่อนหน้าที่จะมีการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ตนได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ จำนวน 9 นาย ออกตรวจลาดตระเวน และสามารถแกะรอยผู้ต้องหา ซึ่งลักลอบเข้ามาหาไม้กฤษณาได้แล้วบางส่วน จึงได้ส่งต่อข้อมูลพร้อมหลักฐาน ให้กับชุดสายตรวจส่วนกลางชุดที่ 2 จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้”

นายอดิศักดิ์ฯ ยังกล่าวอีกว่า “ขอเตือนไปยังผู้ที่คิดจะเข้ามากระทำผิดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทุกราย ว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันลาดตระเวนในพื้นที่ป่า ตลอด 365 วัน หากพบการกระทำผิด จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดทุกราย ซึ่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 หากมีการกระทำผิดจะมีอัตราโทษที่สูง คือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ มาตรการลาดตระเวนอย่างเข้มข้น เป็นไปตามข้อสั่งการของนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งได้มอบหมายนโยบายให้หน่วยงานภาคสนามทุกแห่ง ให้ถือเป็นภารกิจหลักที่สำคัญ ในการปฏิบัติงานคุ้มครองดูแลรักษาพื้นที่ป่าอนุรักษ์”

สำหรับไม้กฤษณา หรือไม้หอม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ มีความสูงประมาณ 18 – 30 ม. ลำต้นตรง เปลือกเรียบ มีสีเทาอมขาว เปลือกมีความหนาประมาณ 5-10 มม. เมื่อไม้กฤษณาเกิดโรคหรือมีแมลงมารบกวน จะสร้างสารที่ก่อให้เกิดกลิ่นหอมที่เรียกว่าน้ำมันกฤษณา สารที่ทำให้เกิดกลิ่นหอมคือ Sesquiterpene ซึ่งไม้กฤษณา เกรด 1 มีน้ำมันสะสมอยู่มากทำให้มีสีดำ มีราคาแพงประมาณ 15,000 – 20,000 บาท/กก. จึงเป็นที่ต้องการของผู้ลักลอบหาไม้กฤษณา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด