• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินเปิดห้องปฏิบัติการและศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมกล้วยไม้ป่าและพันธุ์ไม้ท้องถิ่น มุ่งยกระดับเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และฝึกอบรมพฤกษศาสตร์ระดับภูมิภาค

วันที่ 22 ธันวาคม พุทธศักราช 2568 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานเปิด “ห้องปฏิบัติการและฝึกอบรม ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมกล้วยไม้ป่าและพรรณไม้ท้องถิ่นหายาก (พืชล้มลุก)” พร้อมทั้งทอดพระเนตรนิทรรศการผลการดำเนินงาน ณ โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

ในการนี้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ประกอบด้วย นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีฯ, นายพงษ์ศักดิ์ ด้วงโยธา ผู้ตรวจราชการกรม ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักสนองงานพระราชดำริ, นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ, นางสุนีย์ ศักดิ์เสือ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช, นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก), นายวรดลต์ แจ่มจำรูญ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอนุกรมวิธานพืช, นางสาวภาณุมาศ ลาดปาละ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้ ตลอดจนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กราบบังคมทูลรายงานสรุปภาพรวมการดำเนินงานสนองพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดตาก ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 กรมอุทยานแห่งชาติฯ มุ่งเน้นพัฒนาศูนย์เรียนรู้ฯ ให้เป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์แก่เยาวชนและประชาชน พร้อมเร่งรัดการจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์ผาแดงให้สมบูรณ์ เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมพันธุกรรมพืชอันล้ำค่าของผืนป่าตะวันตก

ด้านนายสุรศักดิ์ คำปาแก้ว หัวหน้าโครงการฯ กราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าของห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงาน กปร. ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568 ปัจจุบันประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงเมล็ดกล้วยไม้ป่ารวม 18 ชนิด อาทิ เอื้องเงินหลวง ช้างกระ และฟ้ามุ่ย สำหรับแผนดำเนินงานในอนาคต จะมุ่งเน้นการขยายพันธุ์พรรณไม้ในพระนามที่เป็นพืชถิ่นเดียว เช่น นางพญาชาฤาษี ช้องเจ้าฟ้า และชมพูราชสิริน เพื่อจัดแสดงในสวนพฤกษศาสตร์ผาแดงและคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังได้นำเสนอความสำคัญของ “กล้วยไม้น้ำ” พืชถิ่นเดียวที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ซึ่งพบได้เพียงในจังหวัดตาก น่าน และกาญจนบุรี โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร ศึกษาวิจัยการขยายพันธุ์ในสภาพปลอดเชื้อ รวมถึงศึกษาศักยภาพในการพัฒนาเป็นพืชสมุนไพร เพื่อสร้างอาชีพและรายได้แก่ชุมชนควบคู่กับการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน

ภายหลังทอดพระเนตรนิทรรศการ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอนุกรมวิธานพืช ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือ “พรรณพฤกษาแห่งผืนป่าตะวันตก” ในการนี้ นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ และคณะผู้บริหาร ได้รับพระราชทานฝักกล้วยไม้ “ช้างกระ” ทรงปลูก เพื่อนำไปเพาะขยายพันธุ์และคืนสู่ผืนป่าตามพระราชปณิธาน

สำหรับโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งนี้ ดำเนินงานเพื่อสนองพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีพระราชกระแสเมื่อปี พ.ศ. 2546 ให้ฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่สังกะสีเดิมของบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เนื้อที่ 48 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอด ให้กลับคืนสู่สภาพป่าธรรมชาติ ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ทางธรรมชาติ มุ่งเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่น อาทิ กล้วยไม้หายาก “รองเท้านารีเวศย์วรุตม์” และการดูแลประชากรเลียงผาในพื้นที่

ปัจจุบัน กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ขับเคลื่อนโครงการให้เป็น “ศูนย์ฝึกอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้” สำคัญของผืนป่าตะวันตก ภายในศูนย์ฯ ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยและโรงเรือนระบบ Evaporation Cooling System (Evap) ซึ่งเป็นต้นแบบการจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อขยายพันธุ์พืชอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเป้าเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศระดับภูมิภาค พร้อมผลักดันงานวิจัยทั้งในและนอกถิ่นกำเนิด (in-situ & ex-situ) ซึ่งจากการสำรวจในปี 2567-2568 สามารถรวบรวมพรรณพืชได้ถึง 595 ชนิด จากผืนป่าตะวันตกครอบคลุมพื้นที่กว่า 27 ล้านไร่ เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการส่งคืนความสมบูรณ์สู่ธรรมชาติต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด