รองนายกฯ และ รทว.ทส. สุชาติ ชมกลิ่น ลงพื้นที่เกาะสีชัง ติดตามงานบูรณาการ ทส. แบบครบวงจร ผนึกกำลัง 6 กรมหลัก “แก้ปัญหาน้ำ-ฟื้นฟูป่า-จัดการขยะ-อนุรักษ์กระรอกขาว พัฒนาท้องทะเล มุ่งสู่เกาะต้นแบบสีเขียวยั่งยืน”

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทส. เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้น้อมนำพระบรมราโชบายมาเป็นธงนำในการปฏิบัติงาน โดยผนึกกำลังทุกกรมในสังกัด ร่วมกันเปลี่ยนเกาะสีชังให้เป็น “เกาะต้นแบบสีเขียว” (Green Island) ที่มีความมั่นคงทั้งทางทรัพยากรธรรมชาติและสวัสดิภาพของประชาชน

นายสุชาติ ระบุว่า ทส. ได้วางระบบความมั่นคงด้านน้ำไว้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยกรมทรัพยากรน้ำ ได้กำหนดแผนก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเทศบาลระยะที่ 2 และแผนดำเนินงานฝายต้อนน้ำ เพื่อดักเก็บน้ำฝนเติมลงสู่อ่างเก็บน้ำเกาะสีชัง ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ใช้เทคนิคในการสำรวจจนพบน้ำใต้ดินภายใต้ชั้นหินลึก ซึ่งสามารถนำมาเป็นน้ำต้นทุนในการสนับสนุนระบบประปา ช่วยลดภาระงบประมาณการซื้อน้ำจืดและสร้างความมั่นใจให้ชาวเกาะว่าจะมีน้ำสะอาดใช้เพียงพอ แม้ในช่วงหน้าแล้ง

ในมิติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการเชิงรุกในการฟื้นฟูสภาพป่าผ่านโครงการ “โปรย ปัก ปลูก” และการสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อสร้างความชุ่มชื้น จนสามารถเพิ่มประชากร “กระรอกขาว” สัตว์ป่าสัญลักษณ์ของเกาะได้ถึง 92 ตัว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการอนุรักษ์สัตว์ป่าหายากให้รอดพ้นจากสภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและป้ายสื่อความหมายธรรมชาติ 20 ป้าย ใน 7 จุดทั่วเกาะ พร้อมทั้งสร้างปฏิมากรรมปูนปั้นกระรอกขาว 2 จุด เพื่อพัฒนาเป็นจุดท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ยั่งยืน

สำหรับการจัดการสิ่งแวดล้อม นายสุชาติเน้นย้ำถึงบทบาทของกรมควบคุมมลพิษ ที่เข้ามาวางแผนจัดการขยะและน้ำเสียอย่างเป็นระบบ โดยส่งเสริมการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อลดปริมาณขยะสะสมบนเกาะ และสนับสนุนให้มีการใช้เทคโนโลยีเตาเผาขยะมาตรฐานสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการดูแลระบบบำบัดน้ำเสียครัวเรือน

ในด้านการพัฒนาท้องทะเลโดยรอบเกาะสีชัง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง วางแผนงานด้านเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) โดยการจัดทำแนวปะการังเทียม เพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ สร้างความยั่งยืนทางอาหารและอาชีพประมงของชุมชนในเกาะ อีกทั้งสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ดำน้ำดูประการังในอนาคตได้อีกทางหนึ่ง

ในส่วนของการอนุรักษ์วิถีชีวิตชุมชน และประชาสัมพันธ์ประวัติศาสตร์ของเกาะสีชัง ท่านสุชาติเสนอให้มีมัคคุเทศก์น้อย เพื่อเป็นสื่อกลางในการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเกาะสีชัง รวมทั้งนำชมทัศนียภาพอันสวยงามรอบเกาะ ซึ่งนอกจากจะเป็นการประชาสัมพันธ์เรื่องราวอันทรงคุณค่าแล้ว ยังช่วยสร้างรายได้ให้กับเยาวชนในพื้นที่ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

“วันนี้คือบทพิสูจน์ของการทำงานแบบบูรณาการของกระทรวง ทส. ทั้งกรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมควบคุมมลพิษ ที่ร่วมกันเปลี่ยนความแห้งแล้งให้เป็นความอุดมสมบูรณ์ ผมมั่นใจว่า โมเดลเกาะสีชังจะเป็นต้นแบบการพัฒนาพื้นที่เกาะอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนสืบไป” นายสุชาติ กล่าวทิ้งท้าย.