กรมอุทยานแห่งชาติฯ เร่งเครื่อง! ผนึกกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อน “SEA” กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ย้ำเป็นโครงการสำคัญระดับชาติ ภายใต้กรอบเวลาที่ท้าทาย

อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เน้นย้ำถึงมิติของการบริหารจัดการผืนป่ามรดกโลก ซึ่งมีทั้งบริบทการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดการสัตว์ป่าและที่อยู่อาศัย รวมทั้งการใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ อาทิ การท่องเที่ยว การใช้ประโยชน์ที่ดิน การจัดการน้ำ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขยายทางหลวงตัดผ่านผืนป่ามรดกโลก เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ การจัดทำ SEA จึงต้องอาศัยการสร้างกลไกการกำกับดูแล และการบูรณาการความร่วมมืออย่างเข้มแข็งจากทุกภาคส่วน โดยกรมอุทยานฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับการจัดทำ SEA โดยมีนายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นประธานกรรมการ มีกรรมการประกอบด้วย สหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN) ประเทศไทย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทางหลวง และผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อกำกับดูแลการจัดทำรายงาน SEA ให้บรรลุเป้าหมาย เป็นการบูรณาการองค์ความรู้และการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การพิจารณาแผนงานหรือโครงการพัฒนาต่างๆ ในผืนป่ามรดกโลก เชื่อมโยงกับกลไกของคณะกรรมการระดับชาติ สามารถตอบข้อมติคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของกรมอุทยานฯ ที่จะทำให้ SEA ครั้งนี้เป็น ต้นแบบระดับนานาชาติ ในการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการพัฒนา

โครงการจัดทำ SEA มีบริษัทที่ปรึกษาโครงการ คือ บริษัท ยูไนเต็ด อนาลิสต์ แอนด์ คอนซัลแทนท์ จำกัด รับดำเนินการศึกษา ภายใต้กรอบเวลาดำเนินการ 300 วัน โดยได้ลงนามสัญญา เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 14 กันยายน 2569

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า โครงการพัฒนาส่วนใหญ่ในผืนป่ามรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ กำลังรอผลการศึกษาของ SEA ซึ่งการศึกษาครั้งนี้จะเป็น “เครื่องมือสำคัญ” ในการประเมินทางเลือกของการพัฒนาหรือเสนอแนวทางลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลของผืนป่ามรดกโลก (OUV) โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษา เพื่อให้ได้ทางเลือกสำหรับการพัฒนาที่ไม่เกิดผลกระทบต่อคุณค่า OUV ของแหล่งมรดกโลก โดยรับฟังความต้องการของประชาชนในพื้นที่ไปพร้อมกัน ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะได้ผลการศึกษา SEA ที่นำไปสู่การจัดทำแผนการจัดการแหล่งมรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ อย่างครอบคลุมทุกด้าน เสริมสร้างความสมดุลระหว่างมิติสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม ส่งเสริมให้การบริหารจัดการแหล่งมรดกโลกของไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน

อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือและเชื่อมั่นว่า ด้วยกลไกการทำงานร่วมกันนี้ จะทำให้รายงาน SEA และแผนการจัดการแหล่งมรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ สำเร็จลุล่วง เป็นที่ยอมรับร่วมกัน และเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาที่สมดุลของประเทศต่อไป.