วันที่ 15 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานเปิดการประชุม ณ ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติดอยปุย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) พร้อมด้วย นายสุขี บุญสร้าง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และนายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ (Zoom)
ขณะเดียวกัน นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมเป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการ กรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมด้วยนางสายสุดใจ ชุนเชาวฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรที่เกี่ยวข้อง มหาวิทยาลัย และนักวิชาการ รวม 27 ท่าน ซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, คณะกรรมการท่องเที่ยวและการกีฬา, กรมธนารักษ์, เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมการท่องเที่ยว, องค์การบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษ (อพท.), สมาคมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว, สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย, สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ, นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, คณะวนศาสตร์, มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร, สมาคมอุทยานแห่งชาติ, มูลนิธิอมตะ, คณะกรรมการที่ปรึกษามรดกโลก, ที่ปรึกษารัฐสภา และที่ปรึกษาจากไทยพีบีเอส
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า กรมฯ มุ่งเน้นการรักษาสมดุลระหว่างการเข้าถึงพื้นที่ของประชาชน การดูแลความปลอดภัย การอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และการรองรับด้านเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับข้อเสนอแนะและข้อห่วงใยจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพการท่องเที่ยวในพื้นที่กรมอุทยานฯ ให้ดียิ่งขึ้น
“ข้อจำกัดที่สำคัญคือ การขาดช่องทางและระเบียบทางกฎหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาพื้นที่บริการ ประกอบกับงบประมาณที่ได้รับในแต่ละปีมีจำกัด เพียงพอแค่การดูแลรักษาพื้นที่เท่านั้น การทำงานบริการต้องใช้บุคลากรของกรมฯ เอง จึงส่งผลให้ภารกิจด้านการคุ้มครองและดูแลรักษาทรัพยากรถูกลดความสำคัญลง” นายอรรถพล กล่าว
อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า หากเปิดรับการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและพัฒนาพื้นที่บริการจากภาคส่วนอื่น จะช่วยให้เกิดการพัฒนาพื้นที่เหล่านั้นได้อย่างมาก เนื่องจากหลายพื้นที่มีศักยภาพสูง แต่ติดอยู่ในข้อจำกัดของระบบราชการ โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ ดังนั้น กรมอุทยานฯ จึงพิจารณาเปิดโอกาสให้ภาคส่วนอื่นเข้ามาดำเนินการในงานบริการ เพื่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างสะดวก รวมถึงการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เช่น ร้านกาแฟ ร้านค้าสวัสดิการ ซึ่งต้องมีระเบียบรองรับ
ในระยะแรก กรมฯ จะพิจารณาโครงสร้างและกระบวนการที่เอื้อให้เอกชนหรือองค์กรสามารถเข้ามาร่วมดำเนินการได้ ซึ่งจะนำไปสู่การพิจารณาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป การประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กรมอุทยานฯ มีทิศทางในการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และหาความเป็นไปได้ในการพัฒนากฎหมายและกฎระเบียบ โดยเน้นการบริหารจัดการเขตบริการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คำนึงถึงนักท่องเที่ยวที่ได้รับการตอบสนองความต้องการอย่างเท่าเทียม การรักษาสภาพแวดล้อม และการดูแลสัตว์ป่าอย่างดี เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกันภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม
สำหรับผลการประชุมหารือครั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะนำผลจากการประชุมไปพิจารณาจัดทำข้อเสนอแนะและแนวทางการดำเนินงาน เพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติพิจารณาต่อไป.

