เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 นายคมกฤษ พิณสาย หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยถึงความสำเร็จในการปฏิบัติการตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และเจ้าหน้าที่สายการบิน Thai Airways ทำการเปิดตรวจกระเป๋าสัมภาระต้องสงสัยที่ถูกส่งกลับจากเที่ยวบินระหว่างประเทศ และพบค่าง (Red-shanked Douc) ซึ่งเป็นสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ จำนวน 2 ตัว ถูกซุกซ่อนอยู่ในสภาพขาดอากาศ
เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 21.50 น. ผู้โดยสารชาวอินเดียได้ทำการเช็คอินเที่ยวบิน TG 325 เพื่อเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองเบงกาลูรู ประเทศอินเดีย พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระ แต่กระเป๋าดังกล่าวถูกส่งกลับมาพร้อมเที่ยวบิน TG 326 ในเช้าวันที่ 11 ธันวาคม โดยไม่มีเจ้าของมารับ ซึ่งถือเป็นสัญญาณสำคัญที่กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกทันที
จากการเปิดตรวจสอบร่วมกันในเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่พบว่าภายในกระเป๋าบรรจุค่างหายาก 2 ตัว ซึ่งอยู่ในภาวะอ่อนแอและตึงเครียดอย่างรุนแรงจากการถูกขังในพื้นที่แคบและอับอากาศ ค่างชนิดนี้จัดอยู่ในบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) และเป็นที่ต้องการสูงในตลาดมืด โดยเฉพาะในเส้นทางการค้าสัตว์ป่าที่เชื่อมโยงจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังเอเชียใต้ โดยใช้ประเทศไทยเป็นจุดผ่านทาง
เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย 3 ฉบับ อย่างเด็ดขาด ได้แก่ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ข้อหาลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ข้อหานำสัตว์ข้ามพรมแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ข้อหานำสัตว์เข้าประเทศโดยไม่ผ่านการกักกัน
คดีนี้ได้ถูกส่งต่อให้สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อสืบสวนและติดตามตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษจำคุกและปรับตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับค่างทั้ง 2 ตัวได้รับการช่วยเหลือและส่งมอบให้สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อทำการตรวจสอบสุขภาพโดยละเอียดจากสัตวแพทย์ และวางแผนการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ก่อนที่จะพิจารณาส่งไปยังศูนย์อนุรักษ์ที่เหมาะสมต่อไป.
