• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

รองนายกฯ “สุชาติ” สั่งกรมอุทยานฯ เตรียมรับ “ไฮซีซั่น-ปีใหม่ 2569” เน้นความปลอดภัย-ขยะอาหารเป็นศูนย์ เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

​นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่จะหลั่งไหลเข้าสู่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศในช่วงฤดูหนาวและเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยเน้นย้ำ “ความปลอดภัย” ของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ พร้อมผลักดันนโยบาย “ขยะอาหารเป็นศูนย์” (Zero Food Waste) เพื่อมุ่งสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและได้มาตรฐานสากล

​นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายของรองนายกฯ อย่างเร่งด่วน โดยเสริมมาตรการความปลอดภัยในทุกมิติ ทั้งการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน​ จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการบริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่” ในทุกอุทยานแห่งชาติ จัดเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและชุดกู้ภัยประจำการตามจุดเสี่ยง พร้อมอุปกรณ์กู้ชีพทันสมัย และระบบส่งต่อผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนภารกิจของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน กวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวด จัดระเบียบการจราจร ป้องกันความแออัด ติดตั้งป้ายเตือน ไฟส่องสว่าง และราวกั้นในจุดเสี่ยงริมหน้าผาหรือทางลาดชัน พร้อมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง

ด้านเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความสะอาดห้องน้ำ ลานกางเต็นท์ บ้านพัก และระบบสาธารณูปโภคให้พร้อมใช้งาน จัดเตรียมจุดพักรถและบริการน้ำดื่มฟรี พร้อมจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลที่มีเจ้าหน้าที่สื่อสารภาษาต่างประเทศได้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่

กรมอุทยานฯ ยังคงเน้นย้ำการรักษาความสมดุลระหว่างการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ ผ่านมาตรการสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดผ่านโครงการ “ขยะคืนถิ่น” รณรงค์ให้นักท่องเที่ยวนำขยะกลับออกจากอุทยานฯ หรือทิ้งในจุดคัดแยกที่จัดไว้​ ห้ามนำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวและภาชนะโฟมเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติ​ พร้อมผลักดันนโยบาย “ขยะอาหารเป็นศูนย์” รณรงค์ให้ลดปริมาณขยะอาหาร การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และส่งเสริมการนำภาชนะใช้ซ้ำมาใส่อาหารและเครื่องดื่ม​

นอกจากนี้ ยังให้นักท่องเที่ยวงดเว้นการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเข้าเขตอุทยานฯ งดส่งเสียงดังรบกวนสัตว์ป่า ห้ามให้อาหารสัตว์ป่า และห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าพื้นที่อุทยานฯ​ ในส่วนของอุทยานแห่งชาติทางทะเลยังกำหนดให้นักท่องเที่ยวห้ามใช้กันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่กระทบต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล โดยเฉพาะปะการัง

​ด้วยธรรมชาติที่สวยงาม กรมอุทยานฯ​ ได้ให้ทุกอุทยานแห่งชาติพัฒนาเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ​ เช่น​

  • ภาคเหนือ​ : เด่นช้างนอน/ภูแว/น้ำตกขุนน้ำปัว/ภู 1,700 – อุทยานแห่งชาติดอยภูคา (น่าน) กิ่วแม่ปาน – อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (เชียงใหม่), ลานสน/ยอดภูสอยดาว 2102 – อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (อุตรดิตถ์), ภูชี้ฟ้า​ – อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า
  • ภาคกลาง/ตะวันออก : น้ำตกกองแก้ว/น้ำตกเหวสุวัต/ผากล้วยไม้ – อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (นครนายก, สระบุรี, นครราชสีมา, ปราจีนบุรี)
  • ภาคกลาง/ตะวันตก : ยอดเขาโมโกจู – อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ (กำแพงเพชร/นครสวรรค์), ยอดเขาเย็น/ยอดเขาขนุน – อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า (กำแพงเพชร/ตาก)
  • แหล่งทะเล : อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (กระบี่), อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์-สิมิลัน (พังงา), อุทยานแห่งชาติตะรุเตา (สตูล), อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด (ระยอง)

สำหรับสถิตินักท่องเที่ยว (ปีงบประมาณ 2568) มีนักท่องเที่ยวรวม 19,332,396 คน โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (2.14 ล้านคน), อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (1.87 ล้านคน), อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด (1.04 ล้านคน), อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (8.65 แสนคน) และอุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี (6.05 แสนคน) ซึ่งกรมอุทยานฯ สามารถจัดเก็บรายได้กว่า 2,208 ล้านบาท

​นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านด้วยมาตรฐานการบริการที่ดีที่สุด ทั้งด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืนสืบต่อไป ทั้งนี้ หากพบเหตุฉุกเฉิน สามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้ทันที หรือโทรสายด่วนกรมอุทยานฯ 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด