9 ธันวาคม 2568 นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าให้ความช่วยเหลือกระทิงป่าเพศผู้ตัวหนึ่ง ซึ่งมีปัญหาการมองเห็นอย่างรุนแรง หลังกระทิงเดินวนเวียนหาอาหารในพื้นที่สวนผักของชาวบ้าน บริเวณบ้านวังประดู่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง นอกเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (9 ธ.ค.) ทีมสัตวแพทย์ประกอบด้วย นายสัตวแพทย์นราธิป วรวัฒนธรรม นายสัตวแพทย์ประจำส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.1 (ปราจีนบุรี) สัตวแพทย์หญิงชนัญญา กาญจนสาขา หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน พร้อมด้วย นางสาวรัชนี โชคเจริญ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้เข้าทำการตรวจสอบและวางแผนการเคลื่อนย้าย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นของสัตวแพทย์พบว่า กระทิงตัวนี้มีอาการตาขวาฝ่อลีบ ส่วนตาซ้ายมีภาวะกระจกตาขุ่น ส่งผลให้ไม่สามารถมองเห็นได้ทั้งสองข้าง ทีมงานจึงดำเนินการยิงยาซึมเพื่อควบคุมสถานการณ์และเตรียมจับเคลื่อนย้าย โดยใช้เชือกคล้องเขาและชักนำกระทิงเข้าสู่กล่องเคลื่อนย้ายอย่างระมัดระวัง ก่อนที่สัตวแพทย์จะฉีดยาปฏิชีวนะ วิตามิน และยาแก้ฤทธิ์ยาซึม เพื่อฟื้นฟูอาการ เนื่องจากกระทิงตัวนี้ตาบอดสนิท ทำให้ทีมงานต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการควบคุมและนำสัตว์เข้ากล่องเคลื่อนย้าย โดยต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่หลายนายเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการที่กระทิงตกใจและมองไม่เห็นทิศทาง
สำหรับการเคลื่อนย้ายครั้งนี้คือ การตัดสินใจ แลกเปลี่ยนพื้นที่ดูแล กับ “เจ้าแก่งดินสอ” กระทิงตาบอดอีกตัวหนึ่ง ซึ่งอุทยานแห่งชาติทับลานเคยนำมาฝากเลี้ยงไว้ที่หน่วยพิทักษ์ฯ เขาใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 โดยกระทิงตัวใหม่ จะถูกส่งไปดูแลต่อที่คอกกระทิงของอุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งมีคอกที่ได้มาตรฐานพร้อมรองรับ
ด้าน “เจ้าแก่งดินสอ” ที่ฝากเลี้ยงที่เขาอุทยานแห่งชาติใหญ่มาเกือบหนึ่งปี ซึ่งปัจจุบันได้ปรับตัวเข้ากับพื้นที่และสภาพแวดล้อมของเขาใหญ่เป็นอย่างดีแล้ว สามารถจดจำเส้นทางเดินภายในคอกและสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจให้กระทิงตัวนี้ใช้ชีวิตต่อในพื้นที่ที่คุ้นเคยเพื่อลดความเครียด
นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน และทีมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้อำนวยความสะดวกในการดำเนินการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ วิธีการนี้เป็นการลดความเสี่ยงและความเครียดจากการขนย้ายซ้ำซ้อนของกระทิงตาบอดทั้งสองตัว
นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) กล่าวว่า “การดำเนินการครั้งนี้เป็นความร่วมมืออย่างแข็งขันระหว่างหน่วยงานในการดูแลสัตว์ป่าที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกระทิงที่สูญเสียการมองเห็น ซึ่งไม่สามารถอยู่รอดในธรรมชาติได้ การดูแลอย่างใกล้ชิดในคอกจะช่วยให้กระทิงเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและปลอดภัย” พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำว่า กรณีการพบกระทิงตาบอดซ้ำรอยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นประเด็นด้านสุขภาพสัตว์ป่าที่ต้องมีการศึกษาและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางป้องกันในระยะยาวต่อไป.

