17 พฤศจิกายน 2568 นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เปิดเผยถึงการสนธิกำลังตามนโยบายของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สั่งการให้อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ทหาร และฝ่ายปกครอง จัดตั้งจุดสกัดร่วม เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวน ป้องปรามการกระทำผิด และป้องกันการลักลอบบุกรุกขุดทองในเขตอุทยานฯ ทองผาภูมิอย่างต่อเนื่องและเด็ดขาด พร้อมกำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ภายใต้การอำนวยการของนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบขุดทองในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ เข้าปราบปรามการบุกรุกป่าอย่างเข้มข้น ปฏิบัติการครั้งนี้มุ่งเป้าไปยังบริเวณป่าปิล๊อกคี่ หมู่ที่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1A และเป็นแปลงคดีที่เคยมีการตรวจยึดการขุดร่อนแร่ทองคำ
คณะเจ้าหน้าที่ได้วางแผนติดตั้งกล้องวงจรปิดเฝ้าระวังพื้นที่บุกรุกตลอด 24 ชั่วโมง กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. กล้องวงจรปิดตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 15 คน พร้อมอาวุธปืนพกสั้นและปืนยาว ลักลอบเข้าไปในพื้นที่เพื่อขุดทอง
เวลา 23.30 น. คณะเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมพื้นที่ โดยแสดงตนและสั่งให้กลุ่มผู้กระทำผิดหยุดเพื่อทำการตรวจสอบ แต่กลุ่มผู้กระทำผิดได้วิ่งหลบหนีอาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่
เจ้าหน้าที่สามารถติดตามและควบคุมตัวผู้ต้องหาในที่เกิดเหตุได้ 4 ราย ประกอบด้วย บุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา/เชื้อสายกะเหรี่ยง ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ดังนี้ : นายอาว (ไม่มีนามสกุล) สัญชาติเมียนมา อายุ 35 ปี นาย Aung สัญชาติเมียนมา อายุ 30 ปี นายจอแล (ไม่มีนามสกุล) สัญชาติเมียนมา อายุ 44 ปี และนายตูหละ (ไม่มีนามสกุล) เชื้อสายกะเหรี่ยง อายุ 45 ปี (ระบุว่าอาศัยในบ้านปิล๊อกคี่)
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจพบกระเป๋าเงินพร้อมบัตรประจำตัวพลเมืองสหภาพเมียนมาของผู้หลบหนีอีก 5 ราย และตรวจยึดอุปกรณ์ของกลางที่ใช้ในการกระทำผิดรวม 40 รายการ ได้แก่
• อุปกรณ์ขุดและร่อนทองคำ : ชะแลงเหล็ก, เหล็กสกัด, ค้อนปอนด์, จอบสั้น และเรียงร่อนทอง
• อาวุธปืน : ปืนยาวลูกกรด (แบบไทยประดิษฐ์) 1 กระบอก พร้อมกระสุน .22 LR 10 นัด
• เครื่องมือสื่อสารและสิ่งของส่วนตัว : โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง, วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง, ไฟฉายคาดศีรษะ 11 อัน, เปลนอน 9 ผืน และเงินสกุลจ๊าด (เมียนมา) จำนวนหนึ่ง
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้หลายฐานความผิด เช่น การบุกรุก ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำลายป่า และเข้ายึดถือครอบครองในเขตป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507, และ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 รวมถึงความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุน
คณะเจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกการจับกุมและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และจะสืบสวนติดตามผู้หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป
นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ย้ำว่า “อุทยานฯ ทองผาภูมิ จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจัง เพื่อพิทักษ์ผืนป่าต้นน้ำอันมีค่า และจะร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติทุกรูปแบบ”

