• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ทลายเครือข่ายค้าสัตว์ป่ารายใหญ่! ยึด “ลิงแสม” สัตว์ป่าคุ้มครอง 143 ตัว รอดพ้นแผนลักลอบขน 2 คดีใหญ่ ชายแดนสระแก้ว

เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และพันธุ์พืช​ สนธิกำลังกับหน่วยงานความมั่นคง ปฏิบัติการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง หลังจากสามารถสกัดกั้นการลักลอบค้าสัตว์ป่าได้สำเร็จถึง 2 คดี ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ยึด “ลิงแสม” สัตว์ป่าคุ้มครองได้รวม 143 ตัว ก่อนจะถูกส่งออกนอกราชอาณาจักร

นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เปิดเผยถึงความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ โดยรายละเอียดของทั้ง 2 คดี มีดังนี้​

📌 วันที่​ 14 พฤศจิกายน 2568 คดีแรกเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1302 ขณะลาดตระเวนในพื้นที่ หมู่ 12 บ้านเขาช่องแคบ ต.คลองหาด อ.คลองหาด ได้ยินเสียงสัตว์ร้องผิดปกติมาจากป่าอ้อยท้ายหมู่บ้าน จึงเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบตะกร้าพลาสติกขนาด 16×20 นิ้ว จำนวน 10 ใบ ซุกซ่อนอยู่ในพงอ้อย​ หลังการตรวจยึดของกลางและนำส่งกองร้อยทหารพรานที่ 1302 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเป็นลิงแสม รวม 62 ตัว แบ่งเป็นเพศผู้ 44 ตัว และเพศเมีย 18 ตัว ซึ่งถูกมัดในถุงตาข่ายไนลอนสีฟ้า ลิงแสมมีร่างกายอ่อนแรงเนื่องจากถูกจำกัดพื้นที่และขาดการดูแลที่เหมาะสม ลิงทั้งหมดจึงถูกนำส่งต่อเพื่อฟื้นฟูสุขภาพที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) จ.ฉะเชิงเทรา แล้ว

📌 ต่อมาในวันเดียวกัน 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.20 น. เจ้าหน้าที่ร้อย.ทพ.1204 ขณะลาดตระเวนในพื้นที่ หมู่ 13 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ พบรถปิคอัพ Toyota Revo สีเทาดำ ทะเบียน นครสวรรค์ มีท่าทีน่าสงสัยและพยายามลักลอบเข้าไปในช่องทางธรรมชาติในไร่อ้อย พร้อมมีการขนถุงตาข่ายสีฟ้าลงจากท้ายกระบะ

เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเพื่อตรวจสอบ รถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วหลบหนีทันที ก่อนจะถูกสกัดจับได้ในที่สุดที่ หมู่ 10 ต.คลองน้ำใส พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ นายสุวัฒน์ (อายุ 38 ปี) และนายสืบพงษ์ (อายุ 40 ปี) ซึ่งให้การว่าเป็นเพียงผู้รับจ้างขับรถ​

การตรวจค้นภายในรถทำให้พบของกลางชุดใหญ่ ได้แก่​ ลิงแสม จำนวน 81 ตัว (เพศผู้ 30 ตัว, เพศเมีย 51 ตัว) อัดแน่นในถุงตาข่าย และยาเสพติด (ยาบ้าและยาไอซ์) โดยลิงแสมชุดนี้มีร่างกายอ่อนแรงเช่นกัน และถูกส่งไปรักษาที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) แห่งเดียวกันแล้ว

นายสมฤกษ์ ศุภมิตรกฤษณา ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เน้นย้ำว่า “การพบคดีติดต่อกันเช่นนี้ ยืนยันว่า พื้นที่ชายแดนยังคงเป็นเป้าหมายของเครือข่ายค้าสัตว์ป่า โดยเฉพาะลิงแสมที่มีความต้องการสูงในต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานอย่างเต็มที่และจะไม่หยุดยั้งในการปราบปราม” ด้านข้อกล่าวหา สำหรับผู้ต้องหาในคดีที่ 2 มีความผิดเกี่ยวกับการมีและค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 รวมถึงข้อหาครอบครองและเสพยาเสพติด

ความสำเร็จในทั้ง 2 คดี เกิดขึ้นได้จากความร่วมมืออย่างแข็งขันของหลายหน่วยงาน อาทิ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.1 (ปราจีนบุรี), ด่านตรวจสัตว์ป่าอรัญประเทศ, หน่วยพิทักษ์ป่าอ่างรัตนโกสินทร์, กองกำลังบูรพา, เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหารพราน จากหน่วยต่างๆ, สภ.คลองน้ำใส, สภ.คลองหาด และฝ่ายปกครอง

นายยศวัฒน์​ กล่าวเพิ่มเติม​ว่า​ ​สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ขอย้ำว่า จะยังคงลาดตระเวนและสกัดกั้นการกระทำผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่าอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง พร้อมจะเร่งขยายผลเพื่อสืบหาเครือข่ายในการค้าสัตว์ป่าต่อไป​ ทั้งนี้​ จึงขอความร่วมมือประชาชนเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นการลักลอบค้าหรือทำร้ายสัตว์ป่า โปรดแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1362 ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตลอด 24 ชั่วโมง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด