อธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดประชุมจัดทำงบประมาณฯ พ.ศ.2570 ขับเคลื่อนนโยบาย รมว.ทส. “คุ้มครอง ฟื้นฟู ป่าอนุรักษ์ สู่ความยั่งยืน” พร้อมถวายอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

ก่อนเริ่มการประชุม คณะผู้บริหารและผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนได้ยืนถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

นายอรรถพล กล่าวว่า การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะงบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จในการบรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย และการให้บริการของหน่วยงาน โดยแนวทางการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2570 สอดคล้องกับนโยบายของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตลอดจนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์

“กรมอุทยานฯ ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวพระราชดำริมาเป็นกรอบการดำเนินงาน โดยเน้นการพัฒนาที่สมดุล คือ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มุ่งเป้าหมายเป็นสำคัญ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณสูงสุด สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้” อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าว

อธิบดีกรมอุทยานฯ เน้นย้ำว่า กรอบการจัดทำคำของบประมาณฯ ให้ความสำคัญกับงานตามภารกิจหลักและวิสัยทัศน์ของกรมฯ “คุ้มครอง ฟื้นฟู ป่าอนุรักษ์ให้มีความสมบูรณ์ เพื่ออำนวยประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน” โดยมุ่งเน้น 9 ประเด็นสำคัญ ได้แก่

1. การสนองพระราชดำริ ดำเนินโครงการพระราชดำริทั้งหมด 195 โครงการ ประกอบด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 116 โครงการ และโครงการขยายผล 62 โครงการ อาทิ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง และโครงการอนุรักษ์และแก้ไขปัญหาสัตว์ป่า

2. การส่งเสริมและพัฒนาชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ สอดคล้องกับนโยบาย รมว.ทส. ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ 4.27 ล้านไร่ ตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และมาตรา 121 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ลดการพึ่งพาป่า และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรป่าไม้

3. การรักษาและเพิ่มพื้นที่ป่า เพื่อเป็นแหล่งดูดกลับคาร์บอน สนับสนุนเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวง ทส.

4. การป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น เทคโนโลยีดาวเทียม ระบบติดตามตรวจสอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลาดตระเวนและการบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์

5. การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ด้วยการจัดตั้งจุดเฝ้าระวังไฟป่าประจำหมู่บ้าน การจัดหาโดรนขนของและดับไฟป่า การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ตอบสนองนโยบาย รมว.ทส. ในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและมลพิษทางอากาศอย่างจริงจัง

6. การแก้ไขปัญหาสัตว์ป่า โดยเฉพาะปัญหาช้างป่าที่สร้างผลกระทบต่อชุมชน ด้วยการขับเคลื่อนโครงการพัชรสุธาตามรักษ์ การศึกษาพื้นที่รองรับช้าง ชุดเคลื่อนที่เร่งด่วน การติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Smart Early Warning System) และการพัฒนาพื้นที่อาศัยแหล่งน้ำและแหล่งอาหารสัตว์ป่า

7. การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน เพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดเก็บรายได้ด้วยระบบ E-Ticket การจองที่พัก และการยกระดับมาตรฐานการให้บริการโซนนิ่ง พื้นที่เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งการพัฒนาการท่องเที่ยด้านสัตว์ป่า สวนรุกขชาติ สวนพฤกษศาสตร์ สอดคล้องกับนโยบายการท่องเที่ยวคุณภาพของรัฐบาล

8. การศึกษา วิจัย พัฒนา โดยพัฒนาสวนพฤกษศาสตร์และสวนรุกขชาติเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ จัดทำคลังข้อมูลวิชาการ และฐานข้อมูลการดูดซับคาร์บอนเครดิต

9. การพัฒนาระบบบริหารจัดการ ด้วยการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เทคโนโลยี อุปกรณ์ และสวัสดิการเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมการเบิกจ่ายงบประมาณปี พ.ศ.2569 และงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีของปี พ.ศ.2568 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการก่อหนี้ผูกพัน รายการครุภัณฑ์ และที่ดินสิ่งก่อสร้าง เนื่องจากผลการเบิกจ่ายจะเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณปี พ.ศ.2570

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านแผนงานและงบประมาณทั้งส่วนกลางและพื้นที่ ได้รับทราบกระบวนการจัดทำคำของบประมาณฯ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และให้การจัดทำงบประมาณตรงตามความต้องการพัฒนาในพื้นที่ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาประเทศ นโยบายรัฐบาล นโยบาย รมว.ทส. และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยมีเนื้อหาการบรรยายและปฏิบัติ 13 ชั่วโมง ครอบคลุม 4 ด้านความรับผิดชอบหลัก ได้แก่ ด้านการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ด้านอุทยานแห่งชาติและการท่องเที่ยว ด้านการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาสัตว์ป่า และด้านการพัฒนาชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์

การประชุมดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรมอุทยานฯ ในการขับเคลื่อนนโยบายของ รมว.ทส. เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โปร่งใส เป็นธรรม และสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทุกคนอย่างยั่งยืน.