วันที่ 21 ตุลาคม 2568 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วย นายฉลอง ทองสงฆ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ, นายประพันธ์ จิตต์เทศ และเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนรวม 50 นาย ได้ร่วมกันแถลงแผนปฏิบัติการพิเศษ “ยุทธการพิทักษ์พงไพร” เพื่อปราบปรามและสกัดกั้นขบวนการลักลอบล่าสัตว์ป่าและทำลายทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่มรดกโลกอย่างต่อเนื่อง
การเปิดยุทธการครั้งนี้ สืบเนื่องจากผลการปฏิบัติงานตามยุทธการ “ล้างบางบ่วง” และ ยุทธการ “ปกป้องป่า” ก่อนหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบการลักลอบวางกับดักสัตว์ป่า และพบซากสัตว์ป่าที่ถูกล่าเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถจับกุมผู้กระทำผิด พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนและซากสัตว์ป่าของกลางได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ายังคงมีการลักลอบล่าสัตว์ป่าในผืนป่าแก่งกระจานอย่างต่อเนื่อง และเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ป่าในพื้นที่เป็นอย่างมาก
นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่พบว่ามีกลุ่มบุคคลลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ป่าเป็นจำนวนมากและกระทำกันเป็นขบวนการ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ชุกชุม ทางอุทยานฯ จึงได้วางแผนปฏิบัติการยุทธการอย่างต่อเนื่องเพื่อปราบปรามผู้ล่าสัตว์ป่าให้หมดไปจากผืนป่าแก่งกระจานให้ได้ โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่เพื่อโอบล้อมและจับกุมผู้กระทำผิดอย่างเป็นระบบ มีแบบแผนทางยุทธวิธี และจะปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่
แผนปฏิบัติการยุทธการ “พิทักษ์พงไพร” อ้างอิงจากข้อมูลการลาดตระเวนที่ผ่านมาและสถิติภัยคุกคามจากฐานข้อมูล SMART Patrol ของอุทยานฯ โดยกำหนดกลยุทธ์ให้ชุดลาดตระเวนที่จับกุมผู้กระทำผิดได้ ให้นำตัวออกจากพื้นที่ทันทีตามเส้นทางที่ใกล้ที่สุด ขณะที่ชุดอื่นๆ ยังคงปฏิบัติภารกิจต่อตามแผน ซึ่งครอบคลุมทั้งการลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่เสี่ยง เก็บกู้อุปกรณ์กับดักสัตว์ป่า สืบค้นร่องรอยการกระทำผิด และจับกุมขบวนการลักลอบล่าสัตว์
หัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจาน เน้นย้ำว่า ทุกปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องทรัพยากรสัตว์ป่าและระบบนิเวศในพื้นที่ โดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์และการวางแผนอย่างเป็นระบบในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด ”การปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายหลักในการจับกุมขบวนการผู้กระทำผิด เพื่อปกป้องคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าให้ปลอดภัยจากการบุกรุกและทำลายล้างที่ผิดกฎหมายในระยะยาว”
ทั้งนี้ จากปฏิบัติการที่ได้ผ่านมา ท่านรองนายกฯ และ รมว.ทส. รวมถึงท่านอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้กำชับและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง และย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อลดปัญหาการล่าและค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย และเป็นการอนุรักษ์ให้สัตว์ป่าได้ดำรงอยู่ต่อไปในระบบนิเวศของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานซึ่งเป็นมรดกโลกที่สำคัญของประเทศไทยสืบต่อไป.
