• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

กรมอุทยานฯ ครบรอบ 23 ปี! รองนายกฯ “สุชาติ ชมกลิ่น” ชูวิสัยทัศน์ “คุ้มครอง ฟื้นฟู ป่าอนุรักษ์” พร้อมมอบ 8 แนวทางขับเคลื่อนงานหลัก กำชับต้องสร้างขวัญกำลังใจ จนท.ปฏิบัติ

(2 ตุลาคม 2568) – กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) จัดพิธีทำบุญและเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาส วันคล้ายวันสถาปนากรมฯ ครบรอบ 23 ปี (2 ตุลาคม 2545 – 2568) อย่างยิ่งใหญ่ ณ ที่ทำการกรมฯ โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธาน

งานนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมอย่างคับคั่ง นำโดย ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวง ทส. และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ รองอธิบดีทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ นายนรินทร์ ประทวนชัย นายวีระ ขุนไชยรักษ์ และนายชิดชนก สุขมงคล พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมงานอย่างอบอุ่น

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อระลึกถึงการก่อตั้ง เพื่อเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ และเพื่อแสดงความขอบคุณต่อผู้สนับสนุนการทำงานของกรมฯ ด้วยดีตลอดมา โดยในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการสรุปผลงานเด่นตลอด 23 ปี พร้อมพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น และผู้ช่วยเหลือราชการกรมอุทยานฯ ประจำปี 2567 รวมถึงการมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “พิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้”

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทส. กล่าวว่า ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา กรมอุทยานฯ ได้ทำหน้าที่ปกป้องดูแลพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของประเทศไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ

“เพื่อให้การดำเนินงานมีความเข้มข้นยิ่งขึ้น” ท่านรัฐมนตรีได้เน้นย้ำและมอบ 8 แนวทางการทำงานหลัก แก่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ดังนี้

1. การอนุรักษ์และปกป้องพื้นที่ป่า : น้อมนำแนวพระราชดำริมาเป็นหลักในการจัดการ พร้อมใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพการลาดตระเวนและการบริหารจัดการพื้นที่
2. ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ : ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ติดตั้งระบบเตือนภัย และใช้พื้นที่ป่าเป็นแนวกันชนทางธรรมชาติ
3. การป้องกันและควบคุมไฟป่า : โดยการจัดการเชื้อเพลิงก่อนฤดูไฟ และปรับยุทธวิธีเป็นการตรึงกำลังที่จุดเฝ้าระวัง รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้เผาป่า
4. ฟื้นฟูพื้นที่ป่าอนุรักษ์ : เพื่อเพิ่มศักยภาพการอนุรักษ์ดินและน้ำ ลดความเสี่ยงอุทกภัยและดินถล่ม และช่วยเพิ่มการกักเก็บคาร์บอน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ
5. ส่งเสริมเศรษฐกิจจากนิเวศบริการ : พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยเน้นการจัดทำมาตรการควบคุมในพื้นที่เปราะบาง และนำเทคโนโลยีมาช่วยเรื่องการจัดเก็บเงินรายได้ให้เกิดความโปร่งใส
6. แก้ไขปัญหาช้างป่าและสัตว์ป่า : บูรณาการความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่เพื่อเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง พร้อมมีมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว
7. พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ : เร่งรัดการจัดระเบียบการอยู่อาศัยให้ถูกต้องตามกฎหมาย และส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อให้ประชาชนเป็นกำลังสำคัญในการดูแลทรัพยากรป่าไม้
8. ดูแลขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ : จัดให้มีสวัสดิการและมาตรการสนับสนุนที่เหมาะสม เพื่อเสริมพลังในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ

ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า “กรมอุทยานฯ มีวิสัยทัศน์ “คุ้มครอง ฟื้นฟู ป่าอนุรักษ์ให้มีความสมบูรณ์ เพื่ออำนวยประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน” และได้ดำเนินภารกิจสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนองงานโครงการพระราชดำริกว่า 178 โครงการ, การแก้ไขปัญหาที่ดินราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายใหม่, การรักษาและเพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อเป็นแหล่งดูดกลับคาร์บอนสำคัญของประเทศ, และการใช้เทคโนโลยีในการปกป้องรักษาทรัพยากร กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะยังคงยืนหยัดในภารกิจองค์กรแห่งการอนุรักษ์ พิทักษ์ คุ้มครอง ป้องกัน และฟื้นฟูของผืนป่าอนุรักษ์ไทย ส่งเสริมสร้างสมดุลให้คนกับป่า อยู่ร่วมกันได้อย่างเกื้อกูล เกิดเป็นความยั่งยืนอย่างสูงสุด เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติคงอยู่เป็นมรดกแห่งความอุดมสมบูรณ์ให้แก่คนรุ่นต่อไป อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด