• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

กรมอุทยานฯ ร่วมกับพันธมิตร ปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติ ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพภาคเหนือลำปาง

18 กันยายน 2568 – กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก บริษัทบางจากศรีราชา จำกัด (มหาชน) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และหน่วยงานพันธมิตร จัดกิจกรรมการปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติพื้นที่ภาคเหนือ ระยะที่ 2 (คู่ที่ 3) ภายใต้โครงการ “ชีวานุรักษ์ พันธกิจเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ” ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง โดยมีนายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม และนายจำเนียร ต้นแก้ว ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง กล่าวต้อนรับฯ

การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในเขตพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้นำนกกาฮัง หรือ นกกก ซึ่งเป็นหนึ่งในนกเงือกขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จำนวน 2 ตัว ที่ได้รับการคัดเลือกและฟื้นฟูพฤติกรรมอย่างดีเยี่ยม กลับคืนสู่ธรรมชาติ หลังจากที่นกชนิดนี้ได้หายไปจากป่าภาคเหนือกว่า 20 ปี

ปัจจุบัน นกกาฮัง หรือ นกกก ซึ่งเป็นนกเงือก 1 ใน 13 ชนิดที่พบในประเทศไทย จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และอยู่ในบัญชีแดงขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) กำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แม้จะมีพื้นที่การกระจายที่กว้าง แต่มีความหนาแน่นของประชากรต่ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่นกกาฮังได้สูญหายไปจากธรรมชาติหมดสิ้น ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ได้ประสบความสำเร็จในการขยายพันธุ์นกกาฮังในสภาพเพาะเลี้ยง รวมถึงนกเงือกชนิดอื่น ๆ บางชนิด ซึ่งมีการศึกษาวิจัยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 และประสบความสำเร็จในการขยายพันธุ์นกกาฮังครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2545 และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

การอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรนกกาฮังในพื้นที่อนุรักษ์ภาคเหนือของประเทศไทยจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากนกชนิดนี้มีความสำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ระบบนิเวศ และยังเป็นชนิดพันธุ์ที่มีความโดดเด่น สามารถดึงดูดความสนใจของสาธารณชนในการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ป่าหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยได้

หลังจากนี้ จะมีการดำเนินงานติดตามภายหลังการทดลองปล่อยที่สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของ IUCN SSC และ AZA ในการปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติที่เป็นไปตามหลักทางวิชาการสากลในอีกหลายปีข้างหน้าต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าการฟื้นฟูประชากรนกกาฮังในธรรมชาติจะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด