• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

“รมว.ทส.เฉลิมชัย” ห่วงใยผู้พิทักษ์ป่าชายแดนไทย-กัมพูชา ลงพื้นที่ให้กำลังใจ​ จนท.ปฏิบัติงาน​ 6 พื้นที่ติดชายแดน ก่อนมอบหนังสือรับรองฯ อยู่อาศัยหรือทำกินในเขตอนุรักษ์​แก่​ ปชช. ตาม​ ม.64 ม.121​

รมว.ทส. “ดร.เฉลิมชัย” “ปลัดชญานันท์” “อธิบดีอรรถพล” พร้อมผู้บริหาร ทส. ลงพื้นที่อุทยานฯ เขาพระวิหาร ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้พิทักษ์ป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในสังกัด สบอ.9 (อุบลราชธานี) ก่อนเป็นประธานมอบหนังสือรับรองการอยู่อาศัยหรือทำกินภายในเขตป่าอนุรักษ์ มาตรา 64 และมาตรา 121 พื้นที่นำร่องป่าอนุรักษ์ 2 แห่ง 

วันนี้ (27 ส.ค. 2568) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้พิทักษ์ป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ณ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

โดยการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 และผู้แทนกองกำลังสุรนารี ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้น รมว.ทส. ได้มอบนโยบาย และกล่าวให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานชายแดน และมอบเสบียงให้กำลังใจแก่ตัวแทนกองกำลังสุรนารี

จากนั้นได้เป็นประธานมอบหนังสือรับรองการอยู่อาศัยหรือทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และมอบหนังสือรับรองการอยู่อาศัยหรือทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า​ พ.ศ. 2562 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุญฑริก-ยอดมน แก่ผู้แทนประชาชน

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส. เปิดเผยว่า ตนและผู้บริหารกระทรวง ทส. มีความห่วงใยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและประชาชน ในช่วงวิกฤตสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นอย่างมาก จึงขอเป็นกำลังใจ และพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถ และเป็นกำลังสำคัญสนับสนุนฝ่ายความมั่นคงตามแผนการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนอาคาร สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก การสนับสนุนเจ้าหน้าที่และยานพาหนะในการอพยพประชาชน รวมถึงการร่วมบริจาคสิ่งของจำเป็น อาหาร น้ำดื่ม การรับและแจกจ่ายสิ่งของบริจาคช่วยเหลือประชาชน และการดูแลความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของชุมชน

ดร.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้มีการยกระดับมาตรการความปลอดภัยและด้านการป้องกันพื้นที่ของฝ่ายความมั่นคง​เพิ่มขึ้น ในส่วนของกระทรวงฯ​ โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯ​ ที่มีภารกิจในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ​ จึงได้มีการสนับสนุนอาวุธปืนที่มีประสิทธิภาพให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลาดตระเวน นอกจากนี้ ยังพบมีการวางระเบิดเพิ่มเติมในพื้นที่ แต่เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้ ทำให้ต้องมีการปรับแผนการลาดตระเวน โดยเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ และทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด (EOD) อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงโครงการมอบเอกสารสิทธิ์การใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตอุทยานฯ ตามมาตรา 64 มาตรา​ 121 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ป่าสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน และเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่มองว่ามีประสิทธิภาพกว่าการใช้กฎหมายอย่างเดียว

โครงการนี้ยังมุ่งหวังที่จะให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ป่าอย่างถูกต้อง มีสิทธิเท่าเทียมกับคนไทยทั่วไป โดยเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยเปลี่ยนให้ประชาชนในพื้นที่ป่ากลายเป็น “นักอนุรักษ์” ที่ช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติและเพิ่มพื้นที่ป่าให้มากขึ้น ซึ่งเป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อรักษาทรัพยากรของประเทศได้อย่างยั่งยืน

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ว่า จากการสำรวจการถือครองที่ดินของราษฏรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2561 รวม จำนวน 14 พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 202 หมู่บ้าน ประชากร 14,562 ราย รวมเนื้อที่ 137,307.32 ไร่ โดยดำเนินการรังวัดสอบทาน และตรวจสอบคุณสมบัติตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดแล้ว ในพื้นที่นำร่องป่าอนุรักษ์ 2 แห่ง รวม 116 ราย 131 แปลง เนื้อที่ 885.75 ไร่ ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติภูจองนายยอย จำนวน 1 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านคำบาก หมู่ 6 ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 47 ราย 52 แปลง เนื้อที่ 290.60 ไร่ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-ยอดมน จำนวน 1 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านแก่งศรีโคตร หมู่ 3 ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 69 ราย 79 แปลง เนื้อที่ 595.15 ไร่

โดยวันนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส. ได้มอบหนังสือรับรองการอยู่อาศัยหรือทำกินภายในเขตป่าอนุรักษ์ ตามแบบ อส.12 ก และ แบบ อส. ข ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติของคณะทำงาน และรับรองผลโดยคณะกรรมการพิจารณาผลการสำรวจแล้ว รวมจำนวน 10 ราย โดยเป็นในส่วนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย บ้านคำบาก หมู่ที่ 6 ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก จำนวน 5 ราย 5 แปลง ส่วนในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-ยอดมน บ้านแก่งศรีโคตร หมู่ที่ 3 ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร จำนวน 5 ราย 5 แปลงเช่นกัน

นายอรรถพล ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการสนับสนุนการทำงานของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ว่า เป็นหน่วยงานที่มีเนื้อที่ป่าอนุรักษ์ในพื้นที่รับผิดชอบ 6 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ​ สุรินทร์ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร รวมสวนรุกขชาติและสวนพฤกษศาสตร์ ทั้งสิ้น 2,280,874.67 ไร่ และมีหน่วยงานภาคสนามในสังกัด 61 หน่วยงาน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้มีการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 และหน่วยงานรับผิดชอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดน พร้อมสนับสนุนเครื่องรับ-ส่งวิทยุ ระบบ VHF/FM ชนิดมือถือขนาด 5 วัตต์ จำนวน 20 เครื่อง

“ส่วนการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีบ้านพักของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร และสถานีควบคุมไฟป่าเขาพระวิหาร ได้รับความเสียหาย 6 ราย ได้ดำเนินการช่วยเหลือ ด้วยการมอบเงินบริจาคจากผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ​ ในการสนับสนุนการซ่อมแซมบ้านเรือน​ จำนวน 234,688 บาท พร้อมมอบเงินสนับสนุนจากกองทุนสวัสดิการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่บ้านพังทั้งหลัง อีก 3 ราย เป็นเงิน 155,000 บาท​ ล่าสุด สำรวจพบอีก​ 1 ราย​ รวมเป็น​ 7 ราย​ สาเหตุที่พึ่งสำรวจพบ เนื่องเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ต่อเนื่องและพึ่งได้ออกมาจากพื้นที่ป่า ก่อนจะพบว่าบ้านพักได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดเช่นกัน​ ซึ่งทางกรมอุทยานฯ จะได้ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด