30 กรกฎาคม 2568 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) ร่วมกับกรมป่าไม้ (ปม.) และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดงาน “วันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก ประจำปี 2568” ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครนายก เพื่อเชิดชูเกียรติและรำลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของชาติ
งานนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในพิธี โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวรายงานการจัดงาน และนายชานน วาสิกศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวต้อนรับ ภายในงานมีคณะผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) กรมป่าไม้ (ปม.) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ตลอดจนหน่วยงานภาคีเครือข่ายหลักด้านการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้และทะเลกว่า 500 คน ที่มารวมตัวกันเพื่อร่วมเชิดชูเกียรติและให้กำลังใจแก่ผู้เสียสละที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจปกป้องผืนป่าและท้องทะเลไทย
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส. กล่าวเน้นย้ำถึงภารกิจของผู้พิทักษ์ป่าว่า “เป็นภารกิจที่หนักหน่วง เต็มไปด้วยความเสียสละ ความอดทน และความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผืนป่าและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ” โดยในช่วงปีที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดสรรงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อาทิ การจัดซื้ออาวุธปืนและอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงระบบติดตามที่ทันสมัย และการจัดสร้างห้องเก็บอาวุธที่มีความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐาน รวมถึงด้านสวัสดิการเพื่อความมั่นคงของชีวิต
นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ประสบเหตุและเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยมีการเพิ่มอัตราการจ่ายเงินเยียวยาให้สูงถึง 1,000,000 บาท เช่น กรณีอัมพาต หรือสูญเสียอวัยวะสำคัญ เช่น แขน ขา หรือตาทั้งสองข้าง จะได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 1,000,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะบางส่วน เช่น แขน ขา หรือตาหนึ่งข้าง จะได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 600,000 บาท กรณีเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ทุกกรณี ปรับเพิ่มจากเดิม 400,000-500,000 บาท เป็นไม่เกิน 1,000,000 บาท และยังสนับสนุนด้านการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอย่างรอบด้านเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่
ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องมาจากการประชุมพิทักษ์ป่าโลกในปี พ.ศ. 2549 ณ ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งได้กำหนดให้วันที่ 31 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก เพื่อรำลึกถึงการก่อตั้งสมาพันธ์ผู้พิทักษ์ป่าระหว่างประเทศ (International Federation Ranger – IRF) และเป็นการสนับสนุนการทำงานอันทรงเกียรติของผู้พิทักษ์ป่าทั่วโลก สำหรับประเทศไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดงานนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 เพื่อตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งในปีนี้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568
นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ารวมทั้งสิ้น 19,511 คน สังกัดกรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลฯ ซึ่งในปีนี้มีข่าวเศร้าที่ต้องสูญเสียเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าผู้กล้าไปถึง 17 ราย จากการปฏิบัติหน้าที่ โดยเป็นเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ 12 ราย และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ 5 ราย ซึ่งถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของผู้ทำหน้าที่ปกป้องทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของประเทศ ทั้งนี้ หน่วยงานและภาคีเครือข่ายได้ร่วมแสดงความเสียใจและเข้าช่วยเหลือทุกครอบครัวอย่างเต็มที่แล้ว
สำหรับการจัดงานวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก ประจำปี 2568 มีกิจกรรมสำคัญหลายอย่างที่จัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้พิทักษ์ป่า ได้แก่ พิธีวางพวงมาลา เพื่อแสดงความรำลึกและสดุดีแด่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ พิธีมอบเครื่องดำรงชีพ อุปกรณ์ และยานพาหนะ ที่จำเป็นสำหรับการลาดตระเวนป่าให้แก่หน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน พิธีมอบโล่เกียรติคุณและเกียรติบัตรแก่ผู้แทนของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ พิธีมอบโล่เกียรติคุณแก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลงานดีเด่นในการควบคุมไฟป่าในปี พ.ศ. 2568
นอกจากนี้ ยังมีพิธีปฏิญาณตน ของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทั้งสามหน่วยงาน (อส., ปม., ทช.) เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ เสียสละ และยึดมั่นในเจตนารมณ์แห่งการพิทักษ์ผืนป่าไทย รวมถึงการจัด นิทรรศการ แสดงผลงานจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ องค์กรพัฒนาเอกชน และภาคประชาสังคม ที่มีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์และคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสร้างความร่วมมือในอนาคต การจัดงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักและความมุ่งมั่นของภาครัฐในการสนับสนุนและเชิดชูเกียรติผู้เสียสละที่อยู่แนวหน้าในการปกป้องสมบัติทางธรรมชาติของชาติ ให้คงอยู่คู่ประเทศไทยไปตราบนานเท่านาน