นายนพพร ประทุมเหง่า ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ได้รับรายงานจากนายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถึงเหตุพบซากกระทิงป่าตายในบ่อน้ำ หลังชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน แจ้งเข้ามา
ทีมสอบสวนประกอบด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สัตวแพทย์จากปศุสัตว์อำเภอแก่งกระจาน ทหารชุดเฉพาะกิจทัพพญาเสือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชาวบ้าน เข้าตรวจสอบพบว่า กระทิงตายมาแล้วประมาณ 24 ชั่วโมง มีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง แต่ไม่ใช่สาเหตุของการเสียชีวิตโดยตรง
ผลการชันสูตรซากกระทิงโดยสัตวแพทย์ พบการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย มีก้อนฝีขนาดใหญ่บริเวณต้นคอด้านขวา และเห็บจำนวนมากเกาะตามขาหนีบและใต้ลำตัว ที่สำคัญพบของเหลวสีเหลืองอมเขียวคล้ายน้ำในบ่อปริมาณมากในหลอดลม และตรวจพบร่องรอยการอักเสบในปอด
เมื่อตรวจด้วยเครื่องตรวจโลหะ พบลูกกระสุนฝังอยู่หลายจุด ทั้งบริเวณหน้าผาก ด้านข้างลำคอฝั่งซ้าย บริเวณข้อศอกด้านขวา และใต้ลำตัว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า กระทิงตัวนี้น่าจะมีอาการป่วยจากการติดเชื้อและอักเสบจากบาดแผลถูกยิง ร่วมกับการติดเชื้อในปอด ทำให้มีอาการไข้และขาดน้ำ กระทิงจึงเดินลงไปกินน้ำและแช่ตัวในบ่อเพื่อบรรเทาอาการ แต่เนื่องจากบ่อมีความลึกมากกว่าตัวกระทิง ก้นบ่อเป็นเลน และสภาพร่างกายของกระทิงไม่แข็งแรง จึงไม่สามารถปีนขึ้นฝั่งได้ และจมน้ำตายในที่สุด
ภายหลังการชันสูตร เจ้าหน้าที่ได้นำชิ้นเนื้อไปตรวจสอบเพิ่มเติมและนำซากกระทิงไปฝังกลบอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่อาจเกิดจากซากสัตว์ป่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างสืบสวนหาผู้กระทำความผิดในการลักลอบล่าสัตว์ป่าคุ้มครองต่อไป.