• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

สนธิกำลังพิทักษ์ป่า​-ทัพพญาเสือ​! รวบ 2 นักล่าน้ำผึ้งคาเขตอุทยานฯ หลังกล้องดักถ่ายภาพบันทึกพฤติกรรม พร้อมของกลางเนื้อรมควัน-ตาข่ายดักปลา

8 เมษายน​ 2568 -​ นายนพพร ประทุมเหง่า ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สาขาเพชรบุรี) เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า​ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ จับกุมชายสองรายขณะลักลอบเก็บน้ำผึ้งป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ พร้อมของกลางน้ำผึ้งป่ากว่า 100 กิโลกรัม เนื้อสัตว์รมควัน ตาข่ายดักปลา และอุปกรณ์ล่าสัตว์​ สอดคล้องกับนโยบายที่​ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีข้อสั่งการให้เข้มงวดการตรวจสอบและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าและการกระทำผิดในพื้นที่ พร้อมให้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด​

เมื่อวันที่​ 7 เมษายน​ 2568 นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รายงานว่า​นายญาณ อ้วนสิงห์​ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน​ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และทหารจากหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ขณะลักลอบเก็บน้ำผึ้งป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ​ การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ (NCAPs) บริเวณรอยต่อผืนป่ามรดกโลกอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ซึ่งได้บันทึกภาพบุคคลต้องสงสัย 6-8 คน ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม – 4 เมษายน 2568

เจ้าหน้าที่จึงร่วมวางแผนและเริ่มลาดตระเวนตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2568​ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการดักซุ่มบริเวณใกล้จุดตั้งกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ บริเวณป่าพุจิเกาะ หมู่ที่ 4 บ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจันติดต่อกับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

จนกระทั่งวันที่ 7 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 9.30 น. เจ้าหน้าที่พบชายสองคนกำลังสะพายกระสอบสีขาวขนาดใหญ่เดินผ่านบริเวณที่ดักซุ่ม เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และทำการจับกุม ทราบชื่อภายหลังคือ นายแอโชะ (สงวนนามสกุล)​ อายุ 50 ปี อยู่หมู่ที่ 6 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี และนายแคเล่ (สงวนนามสกุล)​ อายุ 54 ปี ถือบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน อาศัยอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

จากการตรวจค้นนายแอโชะ​ พบกระสอบสีขาวขนาดใหญ่ 2 กระสอบ ด้านในหุ้มด้วยถุงพลาสติกขนาดใหญ่บรรจุน้ำผึ้งประมาณ 50 กิโลกรัม มีดพกขนาดกว้าง 6 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร สลักคำว่า AAA Jing Tung Lee จำนวน 1 ด้าม ค้อนไม้สำหรับตอกทอยขึ้นต้นผึ้ง 1 อัน ย่ามกระสอบปุ๋ย 3 ใบ ย่ามกระเป๋าผ้าสะพายข้างสีดำ 1 ใบ ไฟฉายแบบคาดหัว 1 อัน เปลนอน 1 ผืน ไฟแช็ค 5 อัน ถุงพลาสติกขนาดกว้าง 66 เซนติเมตร ยาว 100 เซนติเมตร สำหรับใส่น้ำผึ้ง 11 ใบ กาแฟสำเร็จรูป 35 ซอง หินลับมีด 1 อัน หม้อหุงข้าว 1 ใบ ยางในรถมอเตอร์ไซค์ฉีกเป็นเส้น 13 เส้น ถุงกันฝน 1 ใบ เนื้อรมควันไม่ทราบชนิด 1 ขีด และเกลือ 1 ขวด กระเทียม 1 ขีด

ส่วนนายแคเล่ พบกระสอบสีขาวขนาดใหญ่ 3 ใบ ด้านในหุ้มด้วยพลาสติกขนาดใหญ่บรรจุน้ำผึ้งประมาณ 50 กิโลกรัม ค้อนไม้สำหรับตอกทอยขึ้นต้นผึ้ง 1 อัน ย่ามกระสอบปุ๋ย 2 ใบ เปลนอน 1 ผืน ไฟฉายแบบคาดหัว 2 อัน ไฟแช็ค 4 อัน ถุงพลาสติกขนาดกว้าง 66 เซนติเมตร ยาว 100 เซนติเมตร สำหรับใส่น้ำผึ้ง 5 ใบ กาแฟสำเร็จรูป 13 ซอง หินลับมีด 1 อัน หม้อหุงข้าว 1 ใบ ยางในรถมอเตอร์ไซค์ฉีกเป็นเส้น 1 เส้น และตาข่ายดักปลา 1 ผืน

รวมของกลางทั้งหมดที่ตรวจพบในบริเวณบ้านพุน้ำร้อนหมู่ที่ 4 ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ประกอบด้วย น้ำผึ้งป่า 100 กิโลกรัม เนื้อสัตว์รมควันไม่ทราบชนิด ตาข่ายดักปลา และอุปกรณ์การกระทำผิดต่างๆ

ผู้ต้องหาทั้งสองถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ในข้อหา:
1. มาตรา 19(2) ประกอบมาตรา 42 ฐานเก็บหา นำออกไป กระทำประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. มาตรา 19(3) ประกอบมาตรา 43 ฐานล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. มาตรา 19(6) ประกอบมาตรา 44 ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาประโยชน์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4. มาตรา 19(7) ประกอบมาตรา 45 ฐานนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

5. มาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 ฐานบุคคลซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท

เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันทำบันทึกตรวจยึด/จับกุมและส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปยังสถานีตำรวจภูธรบ้านคา จังหวัดราชบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

#อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
#อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน #ป้องกันปราบปราม​ #กล้องNCAPs

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด