วันที่ 28 มีนาคม 2568 ณ ห้องรับรองจักรพงษ์ กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมการแถลงข่าวโครงการก่อสร้างพระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จ.เชียงใหม่ ร่วมกับ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางเสริมกิจ ชัยมงคล รองอธิบดีกรมศิลปากร และคุณมนทิรา พัฒนกุล นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ
โครงการฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นปูชนียสถานและปูชนียวัตถุศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนา รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของชาติ
นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวถึงการอนุมัติพื้นที่สำหรับการดำเนินโครงการว่า “โครงการนี้เป็นการแสดงถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของพุทธศาสนิกชน เป็นศูนย์รวมศรัทธาในการปฏิบัติธรรมตามพระพุทธศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ” ทั้งนี้ การก่อสร้างสามารถดำเนินการได้บนพื้นฐานของการพัฒนาศักยภาพในบริเวณที่อนุญาตให้หน่วยงานเข้าใช้ประโยชน์ในอุทยานแห่งชาติ
ด้านการควบคุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เน้นย้ำว่ามีมาตรการควบคุมไม่ให้ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติโดยรอบ และจะรักษาสภาพธรรมชาติไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการร่วมกับกองพัฒนาการตามอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่าด้วยการปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ โครงการฯ ได้บรรจุไว้ในร่างแผนการบริหารจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (พ.ศ. 2566-2570) และผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นเรียบร้อยแล้ว
ในด้านระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม มีการจัดทำรายงานบัญชีต้นทุนสิ่งแวดล้อม (Environmental Accounting Report – EAR) ซึ่งการประเมินผลกระทบโดยสรุปพบว่า โครงการไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศ ไม่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศ พรรณไม้ และสัตว์ป่าในบริเวณนั้น รวมถึงไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนในบริเวณใกล้เคียง ส่วนในด้านการชะล้างพังทลายของดิน และคุณภาพน้ำ มีผลกระทบในระดับต่ำ
นายวีระ กล่าวในตอนท้ายว่า ทางกรมอุทยานฯ ได้กำชับให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ มาตรการ และข้อสั่งการโดยเคร่งครัด โดยเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์กับอุทยานแห่งชาติ ประชาชน ชุมชน ประเทศชาติ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวอันทรงคุณค่าสืบไป.