เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 นายพิชัย วัชรพงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายรัฐพล บุญมี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ จังหวัดสุรินทร์ เกี่ยวกับการจับกุมและตรวจยึดไม้พะยูง (หวงห้าม) จำนวนมาก โดยการปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ทุกหน่วยงานทำงานในเชิงรุกด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดการลักลอบล่าสัตว์และตัดไม้ทำลายป่า โดยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติงานอย่างเข้มข้น
สำหรับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมประกอบด้วย ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์, ชุดปฏิบัติการข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ กอ.รมน.ภาค 2 สย.2 กองกำลังสุรนารี, เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ตอ./น.) หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 3, เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามที่ 2 สบอ.9 และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ได้ร่วมกันจับกุมนายอุดมเดช (สงวนนามสกุล)อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ที่ 9 บ้านนาสนวนพัฒนา ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นตามหมายค้นศาลจังหวัดสุรินทร์ บริเวณกระท่อมไม่มีเลขที่ ด้านทิศใต้หมู่บ้านชำปะโต หมู่ที่ 3 ตำบลอาโพน อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 15.00 น. โดยมี ร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม เป็นผู้นำหมายค้น
จากการตรวจค้นพบไม้พะยูงของกลาง ดังนี้
1. ไม้พะยูงแก่นล่อน จำนวน 87 ท่อน ปริมาตรรวม 0.4493 ลูกบาศก์เมตร ค่าภาคหลวง 39.49 บาท มูลค่าความเสียหายของรัฐ 112,316 บาท
2. ไม้พะยูงแปรรูปถากกลม จำนวน 43 ท่อน ปริมาตรรวม 0.5134 ลูกบาศก์เมตร ค่าภาคหลวง 82.15 บาท มูลค่าความเสียหายของรัฐ 256,718 บาท
รวมเป็นไม้พะยูงของกลางทั้งสิ้น 130 ท่อน ปริมาตรรวม 0.9627 ลูกบาศก์เมตร ค่าภาคหลวงรวม 122 บาท มูลค่าความเสียหายของรัฐรวม 369,034 บาท
นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์ของกลางในการกระทำความผิด ได้แก่ เลื่อยตัด 1 ปื้น, พานท้ายปืนพร้อมชุดลั่นไก 1 ชุด, พานท้ายปืน 1 อัน, ลำกล้องปืนยาว 42 นิ้ว 1 อัน, สปริงพร้อมชุดนกสับ 1 ชุด, ดินประสิวบรรจุในขวดพลาสติกใส (ยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน) 1 ขวด, ลูกตะกั่ว 321 ลูก, กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO CPH 2483 สีดำ 1 เครื่อง
ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้พะยูงหวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาต”, มาตรา 48 ฐาน “แปรรูปไม้พะยูงหวงห้ามในเขตควบคุมการแปรรูป มีไม้แปรรูปหวงห้ามเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”, มาตรา 69 ฐาน “ครอบครองซึ่งไม้พะยูงหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาต”, มาตรา 70 “ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำความผิดนั้น”
นอกจากนี้ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ฐาน “มีอาวุธปืน (ปืนแก๊ป) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และ “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เจ้าหน้าที่ได้นำไม้พะยูงหวงห้ามของกลาง จำนวน 130 ท่อน พร้อมทั้งเลื่อยตัด 1 ปื้น ไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 ส่วนอุปกรณ์ของกลางอื่นๆ ได้มอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามระเบียบต่อไป