18 มีนาคม 2568 นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติพุเตย จับกุมชายวัย 57 ปี พร้อมอาวุธปืนลูกซองในเขตป่าอนุรักษ์ได้อย่างทันท่วงที หลังได้รับสัญญาณเตือนจากกล้อง (Poacher Cam) ในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบล่าสัตว์ป่า
ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ทุกกลุ่มป่าจัดชุดปราบปรามดักซุ่มในพื้นที่เสี่ยง เมื่อเช้าวันที่ 18 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 07.00 น. คณะพนักงานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติพุเตย นำโดยนายวิเชียร สมใจเพ็ง พนักงานพิทักษ์ป่า ประจำหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พต.2 (พุกระทิง) ได้ออกลาดตระเวนเชิงคุณภาพในเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย
ขณะลาดตระเวนในบริเวณป่าบ้านไผ่สีทอง หมู่ที่ 4 ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่พบร่องรอยซุ้มบังไพรและโป่งเทียมสำหรับล่อและล่าสัตว์ จึงได้ติดตั้งกล้อง Poacher Cam และซุ่มเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเวลาประมาณ 07.40 น. กล้องส่งสัญญาณเตือน เจ้าหน้าที่จึงรีบเคลื่อนกำลังเข้าตรวจสอบทันที และพบชายคนหนึ่งกำลังตัดไม้ไผ่อยู่ในพื้นที่ โดยมีปืนลูกซองยาววางอยู่บริเวณใกล้เคียง คณะเจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าจับกุม
ผู้ต้องหาถูกระบุชื่อภายหลังคือ นายอภิชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี อยู่หมู่ที่ 4 ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี จากการตรวจค้นพบของกลางประกอบด้วย ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน (มีข้อความที่พานท้ายปืนว่า “สพ.1/008”) พร้อมกระสุนปืนลูกซอง 1 นัดในลำกล้อง กระเป๋าสะพายข้าง 1 ใบ เครื่องกระสุนปืนลูกซอง 5 นัด และมีดอีโต้ 1 เล่ม
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรืออาวุธเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (7) ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 โดยผู้ต้องหายินยอมเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรองค์พระ จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490
การจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จในการป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์ และสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้เทคโนโลยีกล้อง Poacher Cam ในการเฝ้าระวังและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ป่า ซึ่งจะช่วยปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าให้คงอยู่สืบไป