• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

เจ้าหน้าที่​ อช.ดอยหลวง​ จับชายลอบล่าสัตว์พร้อมซากหมูป่า-อาวุธ ขณะลาดตระเวนเฝ้าระวังไฟป่าดอยหลวง​

(12 มีนาคม 2568) – นายเจษฎา เงินทองผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) เปิดเผยว่า​ เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามอุทยานแห่งชาติดอยหลวงสามารถจับกุมผู้ลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวนได้คาหนังคาเขา พร้อมของกลางซากหมูป่าน้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัม และอาวุธครบชุด หลังตั้งด่านสกัดซุ่มดักตลอดทั้งคืน

นายปัณณวิชญ์ ภูริรักษ์พิติกร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติด​อย​หลวง​ รายงานว่า​ จากการลาดตระเวนตรวจหาไฟและป้องปรามการลักลอบจุดไฟเผาป่า​ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ปี 2568​ นายชัยวสันต์ เนตรดำรง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ พร้อมชุดเจ้าหน้าที่กำลัง 6 นาย ได้ดักซุ่มในพื้นที่เสี่ยงตลอดทั้งคืนของวันที่ 11 มีนาคม จนกระทั่งช่วงเช้ามืดวันที่ 12 มีนาคม สามารถจับกุมผู้ต้องหาในเวลาประมาณ 05.33 น.​ ที่บริเวณป่าขุนวังแปลงสาม บริเวณห้วยมะแง ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง พื้นที่ตำบลวังแก้ว อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

ทราบชื่อผู้ต้องหาภายหลัง คือ นายศรี (สงวนนามสกุล)​ อายุ 62 ปี ชาวบ้านวังเจริญ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ถูกจับกุมพร้อมของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย​ ซากหมูป่าน้ำหนัก 43.9 กิโลกรัม อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 10 นัด มีดอีโต้ และมีดชำแหละเนื้อ รถจักรยานยนต์ 1 คัน​และ อุปกรณ์ล่าสัตว์อื่นๆ เช่น ไฟฉาย ตอดไก่ป่า ตอดเก้ง

สำหรับการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้มงวดการลาดตระเวนเพื่อป้องกันไฟป่า แต่กลับพบผู้ลักลอบล่าสัตว์ป่าซึ่งมีความผิดหลายข้อหา​ โดยเจ้าหน้าที่ได้ผู้ต้องหาถูกส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.วังเหนือ ตามกระทำความผิดพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ในความผิดฐานล่าสัตว์ป่า และนำอาวุธเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ​ กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

กรณีนี้ถือเป็นการดำเนินการตามนโยบายแก้ไขปัญหาไฟป่าและการละเมิดกฎหมายอุทยานแห่งชาติอย่างเข้มงวด ตามนโยบาย​ ดร.เฉลิมชัย​ ศรีอ่อน​ ซึ่งชุดลาดตระเวนจะยังคงปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงฤดูแล้งนี้​ อุทยานแห่งชาติดอยหลวงขอเตือนประชาชนว่า การล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานฯ มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี และปรับไม่เกิน 1.5 ล้านบาท​ นอกจากนี้ การกระทำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ เช่น การครอบครองซากสัตว์ป่า การค้าสัตว์ป่า หรือการนำเข้า-ส่งออกสัตว์ป่า ก็มีบทลงโทษที่แตกต่างกันไปตามความผิดอีกด้วย.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด