• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค​ จับกุมชายวัย 50 ปี ขณะลักลอบจุดไฟรมควันรังผึ้งในเขตป่าอนุรักษ์ พร้อมของกลางอุปกรณ์ล่าสัตว์ป่าครบชุด

นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมซักซ้อม-ป้องกัน-รับมือปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยเน้นการทำงานที่ “รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด” เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพอนามัยของประชาชน

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอุทยานแห่งชาติไทรโยคได้รับแจ้ง​ว่ามีผู้ลักลอบจุดไฟในเขตอุทยานฯ บริเวณพื้นที่ป่าบ้านไทรโยคใหญ่ หมู่ 7 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จึงรีบเข้าตรวจสอบทันที​ นายถิรายุ เกลี้ยงสอาด หัวหน้าศูนย์สั่งการและติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันอุทยานแห่งชาติไทรโยค รายงานว่า ชุดลาดตระเวนพบควันไฟลอยขึ้นมาจากเส้นทางลักลอบเข้าป่าที่มักใช้เป็นช่องทางเก็บของป่าและล่าสัตว์ป่า เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบและจับกุมชายอายุ 50 ปี ขณะกำลังก่อไฟโดยใช้กาบมะพร้าวจุดไฟเพื่อรมควันรังผึ้ง

ผู้ต้องหาคือ นายทองขาว (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบรถจักรยานยนต์ 1 คัน พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ประกอบด้วย​ ขวาน 1 เล่ม​ เสียม 1 อัน​ มีดพกสั้น 1 เล่ม​ เลื่อยโค้ง 1 อันกรรไกรตัดกิ่ง 1 อัน​ เชือกตาข่าย 3 ผืน​ กาบมะพร้าว 3 ลูก​ และไฟแช็คสีขาว 1 อัน

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้” ตามมาตรา 19(9) และ “ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยคเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายชุติเดช​ กล่าวเพิ่มเติม​ว่า​ การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตไฟป่าและหมอกควันที่กำลังคุกคามหลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันตก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยกระดับมาตรการเข้มงวดในการปราบปรามการเผาป่าและก่อไฟในเขตอนุรักษ์​ แม้จะดูเป็นเพียงการจุดไฟเล็กๆ เพื่อรมควันรังผึ้ง แต่ในช่วงแล้งนี้ไฟเพียงเล็กน้อยสามารถลุกลามเป็นไฟป่าขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ทำลายระบบนิเวศและสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในผืนป่า​ ทั้งนี้​ ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเข้าไปในเขตอุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต และหากพบเห็นการกระทำผิด ขอให้แจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด