เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 20.00 น. นายสมเกียรติ กาติ๊บ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวได้ออกตรวจลาดตระเวนไฟป่าโดยรถยนต์บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 12 ในพื้นที่ตำบลปากช่อง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จนกระทั่งมาถึงพิกัด 47 Q 765590 E 1854386 N พบชายต้องสงสัยสวมไฟฉายคาดศีรษะ ยืนอยู่ห่างจากถนนประมาณ 30 เมตร พร้อมพบจุดไฟเผาป่าในบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม แต่ผู้ต้องสงสัยได้วิ่งหลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบของกลางเป็นปืนไทยประดิษฐ์ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110i ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน ที่คนร้ายทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังพบไฟป่าลุกลามในบริเวณใกล้เคียงที่พิกัด 47 Q 766417 E 1853727 N
ทั้งนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวมีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ในข้อหาเผาป่าและทำให้เสื่อมสภาพ มีโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับ 400,000-2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ข้อหาเข้าไปหาผลประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และนำอาวุธเข้าไปในเขตอุทยาน มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ฐานเผาป่าและทำให้เสื่อมสภาพ มีโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับ 20,000-200,000 บาท รวมถึงฝ่าฝืนประกาศอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวที่ห้ามเข้าพื้นที่ และประกาศจังหวัดเพชรบูรณ์เรื่องกำหนดเขตควบคุมไฟป่าที่ห้ามเผาโดยเด็ดขาด โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีในส่วนของอาวุธปืนไทยประดิษฐ์เพิ่มเติม ในข้อหามีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ด้านนายสมเกียรติ ยอดมาลี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบาย “รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด” ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ ที่ให้เร่งป้องกันการลักลอบเผาป่าอย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยให้ผนึกกำลังทั้งภาครัฐและประชาชนในการเตรียมรับมือสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นควัน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิดให้กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความร่วมมือในการดูแลรักษาป่าร่วมกัน
ทั้งนี้ พบเห็นไฟป่าแจ้งสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง.