ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน เพื่อติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเครือข่ายไฟป่า โดยเมื่อวันที่ 29 มกราคม ได้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ พร้อมมอบสิ่งของให้กำลังพล 100 นาย และวันที่ 30 มกราคม ได้เดินทางไปอุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน มอบสิ่งของให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กว่า 500 นาย โดยมีนายจตุพรบุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ทส. เจ้าหน้าที่ เครือข่ายชาวบ้าน และนักเรียน เข้าร่วมและให้การต้อนรับ
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เปิดเผยว่า สถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นควันเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตก หลังพบจุดความร้อนสะสมสูงสุดใน 5 จังหวัด ได้แก่ ตาก กาญจนบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์และชัยภูมิ กระทรวงฯ ได้เร่งสั่งการให้เฮลิคอปเตอร์เข้าดับไฟป่าในพื้นที่วิกฤตโดยเร่งด่วน โดยสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำในจังหวัดตาก และอีก 1 ลำในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งพบจุดไฟกระจายหลายจุดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดหากพบการเผา และเน้นย้ำให้ทำความเข้าใจกับชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ในท้องที่ให้ร่วมกันเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดไฟป่า และขอชื่นชมในความเสียสละ ทุ่มเทและความมุ่งมั่นของทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติภารกิจอันสำคัญโดยเน้นย้ำให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ พร้อมยืนยันว่ากระทรวงฯ จะให้การสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งด้านงบประมาณ อุปกรณ์ เครื่องมือ และการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ดร.เฉลิมชัยกล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯได้มีการสั่งเตรียมพร้อมรับมือไฟป่า ภายใต้แนวทาง “รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด” ตามนโยบายของ รมว.ทส. โดยได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า แบ่งการบริหารจัดการเป็น 14 กลุ่มป่า ครอบคลุมพื้นที่ป่ารวม 44.71 ล้านไร่ มีเป้าหมายลดพื้นที่เผาไหม้ลงร้อยละ 25 จากปี 2567 โดยเฉพาะในกลุ่มป่าเขื่อนภูมิพลซึ่งครอบคลุมพื้นที่จังหวัดตาก เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง มีเนื้อที่รวม 3.38 ล้านไร่ ได้จัดตั้งจุดเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง 2,059 จุด จัดชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (เสือไฟ) 15 ชุด กำลังพล 345 นาย พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติจำนวน 1,690 หมู่บ้าน และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการติดตามสถานการณ์ไฟป่าทั้งอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และระบบติดตามจุดความร้อน (Hotspot) ผ่านดาวเทียม
สำหรับการป้องกันไฟป่าของชาวบ้านในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน ได้พัฒนาระบบการป้องกันไฟป่าแบบมีส่วนร่วมที่เข้มแข็ง โดยจัดตั้ง “เครือข่ายชุมชนเฝ้าระวังไฟป่า” มีการจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอด 24 ชั่วโมง สร้าง “แนวกันไฟสีเขียว” โดยชุมชนร่วมกันปลูกพืชที่มีความชื้นสูง พัฒนา “ภูมิปัญญาท้องถิ่น” ในการจัดการเชื้อเพลิง และในวันเดียวกัน ได้มีการลงนาม “บันทึกความร่วมมือ การป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่กลุ่มป่าเขื่อนภูมิพล” ระหว่างอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ร่วมกับชุมชนทั้งในและรอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จำนวน 21 หมู่บ้าน โดยมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการเฝ้าระวัง ตรวจตรา ดูแลพื้นที่เสี่ยง ร่วมประชุมวางแผนและปฏิบัติการดับไฟป่า รวมถึงจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากไฟป่าแก่ประชาชนในพื้นที่